ปัญหาการกินที่มักจะพบในเด็ก 1-3 ปี
เมื่อลูกน้อยอายุ 1-3 ปี ปัญหาที่พ่อแม่มักจะต้องเจอบ่อยๆ ก็คือปัญหาการกินของลูกน้อยนั่นเอง เราจึงรวบรวมปัญหาการกินของเด็ก 1-3 ปีมาให้พ่อแม่ได้เรียนรู้และเตรียมตัวรับมือกับปัญหาเหล่านี้กันค่ะ
อยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่ามีปัญหาอะไรบ้าง แล้วลูกน้อยของคุณกำลังเจอกับปัญหาเหล่านี้อยู่หรือเปล่า เพื่อไม่เสียเวลาเราไปดูกันเลยนะคะ
ไม่ชอบกินผัก
ในบรรดาอาหารทั้งหมด อาหารที่ลูกน้อยจะพยายามหลีกเลี่ยงมากที่สุดก็คือ ผักนั่นเอง ซึ่งเด็กวัยนี้จะไม่ยอมกินผักเลยแต่จะเลือกกินแต่เนื้อสัตว์และพวกขนมจุบจิบแทน จึงมักจะทำให้เด็กกลายเป็นโรคอ้วนกันเสียส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นพ่อแม่ควรหาสิ่งจูงใจมาหลอกล่อให้เขากินผักมากขึ้น โดยอาจจะเริ่มให้เขากินผักที่ไม่มีกลิ่นฉุนและไม่มีรสขมก่อน หรืออาจจะนำผักมาทำเมนูอาการที่หน้าตาน่าทานเพื่อให้เขารู้สึกอยากกินมากขึ้นก็ได้
แพ้โปรตีนในเนื้อสัตว์
ในปัจจุบันพบว่ามีเด็กที่แพ้โปรตีนในเนื้อสัตว์เป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งจะสังเกตได้ว่าเด็กจะมีผื่นแดงขึ้นตามตัว มีอาการคลื่นไส้อาเจียนหรืออาจจะมีอาการหอบร่วมด้วยได้ แต่อาการเหล่านี้มักจะหายไปเมื่อเขาโตขึ้น ดังนั้นพ่อแม่ควรให้เขาหยุดกินอาหารที่เขาแพ้ก่อนแล้วค่อยให้เขาลองกินใหม่เมื่อเขาโตขึ้นค่ะ
เบื่ออาหาร
ในช่วง 1-3 ปีนี้เด็กอาจจะมีอาการเบื่ออาหารได้ เพราะเขาเริ่มรู้จักที่จะปฏิเสธและมักจะห่วงเล่นมากกว่าจึงทำให้เขากินอาหารน้อยลง ซึ่งก็อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเขาได้เหมือนกัน ดังนั้นพ่อแม่ควรพยายามให้เขากินอาหารมากขึ้น ซึ่งก็อาจจะมีสิ่งจูงใจหรืออาจจะสร้างบรรยากาศให้อาหารดูน่าทานมากขึ้น ก็จะทำให้ลูกน้อยของคุณเริ่มอยากทานอาหารบ้างแล้วล่ะ
กินอาหารได้น้อยลงเมื่อฟันขึ้น
เมื่อฟันขึ้นจะทำให้เขารู้สึกแปลกๆ และกินอาหารได้น้อยลง ซึ่งก็เป็นเพราะเขายังไม่ค่อยชินกับใช้ฟันเคี้ยวอาหารนั่นเองโดยช่วงนี้พ่อแม่ควรให้เขากินอาหารที่กินง่ายก่อน อย่างเช่นอาหารเหลวหรือจะเป็นข้าวต้มก็ได้ เพื่อให้เขากินอาหารได้มากขึ้นนั่นเอง
ปัญหาการกินเหล่านี้เป็นปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นกับเด็กวัย 1-3 ปีเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็สร้างความเหนื่อยใจและความไม่สบายใจให้กับพ่อแม่มากทีเดียว
แต่การแก้ปัญหาเหล่านี้ก็ไม่ยากเลย เพียงแค่พ่อแม่พยายามสร้างบรรยากาศที่ดีในการกินอาหารและหาสิ่งจูงใจมาล่อเขา ก็จะช่วยให้ลูกน้อยของคุณกินอาหารได้มากขึ้นและกินาหารได้ถูกต้องตามหลักโภชนาการแล้วล่ะ