อยากตาสวย..เราช่วย ( บำรุง ) ได้
ใครๆก้อรู้ว่า ผิวหนังรอบดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางที่สุด แถมยังเป็นส่วนที่เกิดริ้วรอยได้ง่ายที่สุดอีกด้วยเพราะชั้นผิวหนังบริเวณรอบดวงตานั้นอ่อนบางกว่าผิวหน้าถึง 3 เท่า!! จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า อาการหงุดหงิดหน้างอ ของเรา หรืออาการหรี่ตา และอื่นๆอีกมากมายนั้นจะไปส่งผลที่ผิวหนังรอบดวงตาอย่างไร
เรามาลองดูปัญหายอดฮิตและวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้กัน
1.ริ้วรอยรอบดวงตา
เป็นปัญหายอดฮิตตลอดกาล สาเหตุมักเกิดจากอายุที่มากขึ้นอิลาสตินและคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวกระชับก็จะยิ่งลดน้อยลง หนำซ้ำเรายังเจอมลภาวะโดยเฉพาะแสงแดดและสารเคมีจากเครื่องสำอางในชีวิตประจำวันทีทำร้ายผิวอย่างเลือดเย็น ทำให้ผิวเหี่ยวย่น เกิดเป็นรอยลึกขึ้นบริเวณรอบดวงตา
วิธีแก้ : ทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของน้ำมันจมูกข้าว ซึ่งมีสรรพคุณในการลบเลือนริ้วรอย ได้อย่างน่าทึ่ง และหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี หรือแสงแดด ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอย
2.ตาคล้ำ
ลักษณะเป็นรอยคล้ำอยู่ใต้ตาเหมือนเจ้าหลินปิงคงไม่ดีแน่ หากคุณยังคงอดนอนเป็นกิจวัตร และสุขภาพไม่แข็งแรง แต่ถ้าหากนอนจนจุใจแล้วยังไม่วายมีรอยคล้ำใต้ตาล่ะก็..สันนิษฐานได้ว่าอาจจะเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือป่วยเป็นภูมิแพ้จนเกิดการคั่งของเส้นเลือดดำใต้ดวงตาก็เป็นได้
วิธีแก้ : การพักผ่อนให้เพียงพอดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ถ้าไม่ถนัดนักลองใช้สมุนไพรธรรมชาติที่มีส่วนประกอบของวิตามินซีก็น่าจะช่วยได้บ้าง แถมยังไม่ต้องเสี่ยงกับการมีสารเคมีสะสมบนใบหน้าอีกด้วย
3.ตาบวม
คุณผู้หญิงที่นอนไม่พอ หรือผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วง หรืออาจจะเกิดจากการที่ของคั่งค้างบริเวณเนื้อเยื่อใต้ตา ทำให้เกิดเป็นถุงป่องๆห้อยบวมอยู่บริเวณใต้ตา
วิธีแก้ : รีบหาครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีส่วนผสมว่านหางจระเข้ ชาเขียว แตงกวา มาใช้โดยด่วน หรืออาจใช้แตงกวาฝานเป็นแว่นบางๆ หรือถุงชาแช่ในน้ำเย็นมาแปะเอาไว้บนเปลือกตา 10 นาที ให้ง่ายกว่านั้นก็ลองเอาช้อนสแตนเลสแช่เย็นมาโปะไว้รอบดวงตา สัก 5-10 นาที ความเย็นจะช่วยทำให้หลอดเลือดหดตัว ลดอาการบวมได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ลองนวดเบาๆรอบดวงตาเพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของของเหลวและให้ออกซิเจนแก่ผิว รวมถึงหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดก่อนนอนไว้ด้วยก็ดี
4.ตาโรย
อาการตาโรยอาจเกิดจากการเพ่งสายตาเป็นเวลานานๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูโทรทัศน์ ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือการอ่านหนังสือจนรู้สึกว่าตาแห้ง เกร็ง เป็นต้น
วิธีแก้ : จักษุแพทย์แนะนำให้พักผ่อนสายตาทุกๆ 2-3 ชั่วโมง ด้วยการทอดสายตามองออกไปไกลๆ
หรือมองสีเขียวซึ่งเป็นสีที่ช่วยให้สบายตา สักประมาณ 10-15 นาที และที่สำคัญ พยายามรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอ และ ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์ทั้งกายและใจ