Why don't you call?

 

ทำไมคนสมัยนี้ถึงชอบ SMS กันนัก เกิดอะไรขึ้นกับการได้ยินความคิดของเขาผ่านเสียงกระซิบแผ่วเบาเข้าหูหรือตะโกนสาดโคลนใส่กันจนเส้นเสียงแทบแตกกระเด็น ไม่ว่าจะหวานเป็นน้ำอ้อยหรือกร่อยเป็นมะระ มันก็ยังเป็นสิ่งที่กำหนดขึ้นจากความรู้สึกของคน แต่ ณ บัดนาว คนเราคุยกันน้อยลง และอ่านมากขึ้นแทน

คำว่า 'หน้า' ถ้าไม่พ่วงคำว่า ‘จอ' เข้าไปด้วย คนสมัยนี้แทบจะไม่มอง วาเลนไทน์ ที่ผ่านมา มีการแถลงผลการสำรวจ ‘รู้ใจวัยรุ่นไทย : สื่อรักวาเลนไทน์ 2010' ว่า สื่อรักวัยรุ่นไทยจะเป็นช่องทางในการบอกรักมากที่สุดคือ SMS 61.8% รองลงมาเป็นการบอกตรงๆ 52.3% Hi5 42% MSM 37.7% e-mail 32% facebook 15.1% นอกจากนั้นจะใช้จดหมายไปรษณียบัตร เอ็มเอ็มเอส บีบี และอื่นๆ

อ่านแล้วตัวเลขดูหน้าจะหายที่อักษรดันกลายเป็นสื่อแทนเสียง

ที่เขียนมาทั้งหมดไม่ได้มาต่อต้าน SMS หรอกครับ เพราะผมเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ยอมรับว่าผมชอบการส่งข้อความมากกว่าการพูดถึง แม้ว่าจะเป็นการขายเสียงก็ตามเถอะ

สาวๆ สมัยนี้มักถามผู้ชายของเขาว่าทำไมถึงชอบส่งตัวอักษรนัก? " ไม่อยากได้ยินเสียงฉันหรอกเหรอ? " คำตอบคืออยาก.........แต่ไม่ใช่ตอนนี้ครับ เพื่อนรักผมชื่อเป้ ปฎิเวธ ประทุมทิพย์ เคยบอกว่า SMS เป็นเหมือนหนังตัวอย่างคือไม่พร้อมจะให้วิจารณ์ แต่น่าติดตามดูตอนต่อไป เป้ นิค ป๊อป น้องท็อป คือกลุ่มหนุ่มๆ คนสนิทที่อาศัยอักษรในการสื่อสารทุกๆ เรื่อง หลังจากการปรึกษากันแล้วเราขอสรุปว่า มีสามเหตุผลว่าทำไมผู้ชายถึงชอบส่งข้อความกันมากนัก

1. เกรงใจ
บางทีการส่ง SMS ทำให้ผู้รับไม่เสียเวลาเท่ากับการรับสาย ชีวิตของเขาช่วงนั้นอาจจะกำลังยุ่งกับงาน การช้อปปิ้ง หรือปัดมาสคาร่าอยู่ มันคงไม่ดีนักถ้าความคิดของเราจะทำให้ตาที่ควรจะเหมือนแองเจลิน่ากลับกลาย เป็นแพนด้าเสียนี่ หรือในช่วงเริ่มจีบ เราก็ส่ง SMS ไปหาเธอเพียงแค่จะบอกว่าคิดถึงเท่านั้น ไม่ได้อยากได้ยินเสียงตอบรับด้วยคำพูด ถ้ามีใจก็ดีไป แต่ถ้าหายไปสายใยคงไม่มี

2. ไม่พร้อม
ไม่ใช่ไม่พร้อมที่จะคุยด้วย แต่ไม่พร้อมเป็นหมอนที่จะรองรับอารมณ์ในวันที่เธอลื่นหล่นจากฟากฟ้า อารมณ์เปลี่ยนได้เหมือนเข็มนาฬิกาพวกเราคงไม่กล้าฝืนเวลาของอารมณ์ ผู้ชายแม้นๆ อย่างเราย่อมรู้ดีว่าการทำปากไวใจเร็วนั้นย่อมไม่เป็นผลดีกับตัว เราอย่างแน่นอน SMS จะช่วยซื้อเวลาในการไตร่ตรองคำพูดที่สวยงามได้

3. เก็บไว้ให้นึกถึง
เคยไหมที่ต้องทนรอข้อความใหม่ๆด้วยความกระวนกระวาย มีเหลือเพียงข้อความเก่าๆ ที่เราอ่านซ้ำไปซ้ำมา จนทำให้รู้ว่าเขามีค่ามากแค่ไหน อย่างหนึ่งเพลงบันทึกหน้าสุดท้ายของพี่เบิร์ดที่อธิบายได้ดีที่สุดว่า "จดจำข้อความขึ้นใจอ่านซ้ำมาซ้ำไป ไม่มีเรื่องใหม่เหมือนเดิมแต่ใจนั้นอยากเขียนเติมจากเรื่องเดิม ว่าเราอยู่เคียงเช่นเก่าคราวนั้น" คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคที่เก็บไว้ในวันที่ไม่เหลือใคร อาจทำให้เขากลับมาเพียงแค่เวลาของความทรงจำ

จริงๆ แล้ว SMS มันกลายเป็นสื่อทางเดียว เป็นถนนอักษรที่เดินทางเดียว เป็นความคิดของเส้นทางที่แสนจะเปลี่ยว เป็นรอยเท้าคู่เดียวที่ไม่มีใครตามมา มันเป็นคำบ่นของคนขี้เหงา การปลดปล่อยความเศร้าของคนที่น้อยใจ มันเป็นจุดเริ่มต้นของวันใหม่ๆ เป็นคำพูดจากใจของใครที่คิดถึงคุณ

ผมว่าอย่าไปโกรธเลยเวลาเขาส่ง SMS มา ถ้าตั้งใจอ่านดีๆ มันอาจจะมีค่ามากกว่าคำพูดไร้ค่าของใครอีกหลายคน สาวๆ ลองดูสิครับ ส่งข้อความทะลึ่งเย้าแหย่ไปให้หนุ่มนักพิมพ์ของคุณบ้าง ให้คำพูดไร้เสียงของคุณเข้าไปวาดภาพปิกัสโซ่อันยิ่งใหญ่ในจินตนาการของเขา แล้วคุณจะรู้ว่าอมยิ้มเล็กๆ ที่คุณมีอยู่ตรงนี้ คืออมยิ้มเดียวกันที่หนุ่มๆ เขามีเวลาส่งข้อความหาคุณ

ที่มา : นิตยสาร COSMOPOLITAN
(ฉบับที่ 156) มีนาคม 2010

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Getty Images