สารต้านอนุมูลอิสระ ดีจริงหรือ
เคล็ดลับที่จะทำให้คุณมีอายุยืนยาวเชื่อว่าใครๆ ก็ต้องการ แต่การมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในแต่ละช่วงวัยด้วย ดังนั้นการดูแลในเรื่องของผิวพรรณจึงเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันค่ะ วันนี้เราจึงนำเรื่องราวเกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระมาให้คุณได้รู้จักกันค่ะ
สารต้านอนุมูลอิสระ เป็นสารที่ช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์และอวัยวะส่วนต่างๆ ภายในร่างกาย ช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันโรคหัวใจและสมอง รวมไปถึงมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งอีกด้วย สารอนุมูลอิสระในร่างกายจะมีด้วยกันหลายชนิด ดังนั้นร่างกายของเราจึงต้องการสารต้านอนุมูลอิสระที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้สามารถยับยั้งอนุมูลอิสระที่จะเกิดขึ้นได้ สารต้านอนุมูลอิสระที่ทุกคนรู้จักกันดีนั้นได้แก่ เบต้าแคโรทีน วิตามินซี และวิตามินอี ซึ่งแต่ละชนิดจะส่งเสริมซึ่งกันและกันในการต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี
คุณทราบหรือไม่ว่าร่างกายของเราจะได้รับสารอนุมูลอิสระจากที่ไหนกันบ้าง สารอนุมูลอิสระสามารถผลิตขึ้นได้เองในร่างกายโดยมาจากการหายใจ หรือจากขบวนการเผาผลาญภายในร่างกาย ซึ่งมักเรียกว่าปฏิกิริยาออกซิเดชั่น โดยมีออกซิเจนเป็นตัวเร่งให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายฆ่าเชื้อโรคของเม็ดเลือดขาว ส่วนสารอนุมูลอิสระจากภายนอกนั้น จะได้รับจากแสงแดด รังสียูวี มลพิษในอากาศ ฝุ่น ควันบุหรี่ แอลกอฮอล์ สารเคมีในอาหาร ไขมันไม่อิ่ม อาหารที่ไหม้เกรียม และอาหารที่มีธาตุเหล็กมากกว่าปกติ
เบต้าแคโรทีน เป็นแหล่งรวบรวมของวิตามินเอ ซึ่งมีบทบาทในการช่วยส่งเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น ซึ่งได้จากผลไม้ที่มีสีส้ม เหลือง หรือแดง เช่น แครอท ฟักทอง มะละกอสุก และผักที่มีสีเขียวเข้ม อย่างบร็อกโคลี มะระ และผักคะน้า เป็นต้น เพื่อให้ร่างกายได้รับเบต้าคาร์โรทีนอย่างเพียงพอ จึงแนะนำให้รับประทานเบต้าคาร์โรทีนเสริมวันละ 15 มก.
วิตามินซีจะมีส่วนช่วยในการปกป้องเซลล์ของร่างกายไม่ให้ถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระ คุณจะพบวิตามินซีจากผลไม้ เช่น ฝรั่ง ส้ม มะขามป้อง รวมถึงผักสีเขียว และมันฝรั่งด้วย สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมสร้างภูมิต้านทาน แนะนำให้รับประทานวิตามินซีวันละ 1,000 มก. แต่กรณีที่เป็นภูมิแพ้สามารถรับประทานเสริมได้ถึงวันละ 2,000 มก.เลยค่ะ
วิตามินอี นับได้ว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายอีกด้วย สำหรับแหล่งอาหารที่มีวิตามินอีสูง ได้แก่ ไข่ นม ถั่ว น้ำมันพืชต่างๆ ผักใบเขียว เป็นต้น
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคุณควรรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ตามหลักโภชนาการที่ดี แต่หากคุณต้องการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และวิตามินบางชนิดก็ควรที่จะเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย เพื่อให้คุณมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกๆวันค่ะ