4 ของกินเล่นที่ให้ประโยชน์และโทษจริงจัง
ความสงสัยไม่ให้ประโยชน์เท่าการค้นหาความจริง และถ้าคุณเคยสงสัยเสมอว่า ของกินเล่นที่ชอบรับประทาน บ่อยๆ แท้จริงนั้นมอบคุณประโยชน์ หรือให้โทษกับร่างกาย นี่คือ 4 ความจริงของ 4 อาหารยอดนิยมที่ควรอัพเดท
ดื่มโซดา ระวัง !ซ่าไม่ออก
โซดา และเครื่องดื่มอัดแก๊สไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายเลยสักนิด เนื่องเพราะส่วนประกอบหลักที่เกิดจากน้ำเชื่อมข้าวโพดนั้นมีระดับน้ำตาลฟรุคโตสสูง และสารให้ความหวานที่นิยมใช้ในอาหารลดน้ำหนัก ล้วนส่งผลโดยตรงให้ตับอ่อนทำงานหนัก ทำให้ระดับอินซูลินในกระแสเลือดสูง ส่งผลให้ร่างกายมีน้ำหนักเพิ่ม งานวิจัยเมื่อปี 2009 ของสถาบัน American Chemical Society ยังพบอีกว่าการบริโภคสารเคมีปรุงแต่ง และฟรุคโตสที่มีระดับสูงในน้ำเชื่อมข้าวโพด (Carbonyls)เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังรวมถึงสารคาเฟอิน และกรดโฟสโฟริคในน้ำอัดลม ยิ่งดื่มมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้กระดูกในร่างกายเปราะบางเร็วขึ้นเท่านั้น การเลิกรับเครื่องดื่มปรุงแต่ง และอัดแก๊สทุกชนิด นับเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพ
รักสุขภาพต้องดื่มกาแฟ
การติดกาแฟเล็กๆ น้อยๆ อย่างบางคนที่ต้องดื่ม Americano สัก 2 ชอต เพื่อความกระปรี้กระเปร่าในช่วงเช้า ไม่ใช่ความผิดที่คุณต้องละอายอีกต่อไป เพราะผลวิจัยในวันนี้มีแต่จะช่วยสนับสนุนและยกระดับให้มันกลายเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มสุขภาพมากขึ้นทุกที หนึงในการศึกษาแสดงว่า กาแฟช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ นิ่วในถุงน้ำดี โรคพาร์คินสัน นิ่วในไต และตับแข็ง แต่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟดำโดยเฉพาะในผู้หญิง เพราะจะทำให้กระดูกบางลง ทางที่ดีควรผสมนมลงไปด้วย
ช็อคโกแลตกับสมดุลของกระแสเลือด และอารมณ์
Dark Chocolate ซึ่งมีส่วนประกอบของน้ำตาล และนมน้อย คือหนึ่งในของกินเล่นที่ดีที่สุด เพราะประกอบด้วยโกโก้สูงถึง 70% ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามอบคุณประโยชน์มากมายให้ร่างกาย ในฐานะแหล่งรวมสารสุขภาพมากมาย เช่น โพลีฟีนอลส์ และฟลาโวนอยด์ แอนไทออกซิแดนส์ ที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ สาเหตุของมะเร็งและความไม่ปกติในร่างกาย ซึ่งพบในชาเขียว ผลการศึกษาเสริมว่าแม้กระทั่งการรับประทาน Dark Chocolate ในปริมาณเพียงเล็กน้อย ก็สามารถลดความเสี่ยงของเส้นเลือดอุดตันที่ทำให้เกิดอาการหัวใจวาย หรือเส้นเลือดตีบในสมอง และอาจลดความดันเลือดได้ ยิ่งเมื่อรวมกับคุณประโยชน์ที่รู้จักกันดีในฐานะของกินเล่นที่กระตุ้นพลังงาน และยกระดับอารมณ์ให้สงบ ผ่อนคลาย จึงยิ่งกลายเป็นหนึ่งในอาหารวิเศษที่ไม่ควรพลาด มีข้อจำกัดอยู่นิดเดียวว่าควรรับประทานไม่เกินวันละ 2 ออนซ์ต่อวัน เพราะอุดมด้วยแคลอรี่สูง และไขมันอิ่มตัวซึ่งไม่ค่อยเป็นมิตรกับร่างกาย
ข้าวโอ๊ต...ยิ่งกินยิ่งโหย
หลายคนมักเข้าใจว่าข้าวโอ๊ตคืออาหารสุขภาพสำหรับมื้อเช้าที่ดี แต่คงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เพราะผลการวิจัยแบบควบคุมกลุ่มทดลองของโรงพยาบาลเด็ก Boston Children's Hospital ที่แบ่งเด็กออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มเด็กที่รับประทานข้าวโอ๊ตในมื้อเช้า และกลุ่มเด็กที่รับประทานไข่เจียว ผัก และผลไม้ พบว่ากลุ่มเด็กที่รับประทานข้าโอ๊ตจะรู้สึกโหย และมีความต้องการอาหารมากขึ้นกว่ากลุ่มที่สองถึง 80% เนื่องจากข้าวโอ๊ตส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและทำให้เด็กอยู่ในภาวะอารมณ์ตึงเครียด และมีความต้องการอาหารมากกว่าปกติ ทางที่ดีกว่า จึงดีควรให้เด็กบริโภคอาหารเช้าที่ประกอบด้วยโปรตีนซึ่งจำเป็นในการเริ่มต้นของวัน