เลี้ยงลูกให้เป็นช่วยสร้างพัฒนาการสมองที่ดีให้แก่ลูกได้
พ่อแม่มือใหม่หลายท่านที่เมื่อมีลูกแล้ว อาจจะไม่ค่อยมีเวลาได้เลี้ยงดูลูกเท่าไรจนต้องเอาเขาไปฝากให้พี่เลี้ยงคนอื่นๆ เลี้ยงดูหรือฝากสถานรับเลี้ยงเด็กอ่อนทั่วไป แต่คุณทราบไหมว่าการเลี้ยงลูกน้อยในแบบที่รุนแรงหรือหากเราเลี้ยงไม่ดีก็ย่อมส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางสมองของเขาได้เหมือนกันนะคะ หากเป็นไปได้อยากให้คุณแม่เป็นฝ่ายเอาเวลามาเลี้ยงดูลูกเองจะดีกว่า ทว่าจะเลี้ยงอย่างไรไม่ให้เขาเติบโตมาแข็งกร้าว แต่ให้เขาเป็นคนดีและอ่อนโยนพร้อมกัน แถมช่วยกระตุ้นให้พัฒนาการทางสมองเป็นไปอย่างฉลาดมากขึ้น วันนี้เรามีคำแนะนำมาฝากกันดังนี้แล้วค่ะ
สำหรับเรื่องของการเลี้ยงลูกด้วยวิธีอย่างไรนั้น เป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรให้ความใส่ใจอย่างมาก และสิ่งที่คุณไม่ควรทำเลยคือการเลี้ยงลูกด้วยการใช้อารมณ์และความรุนแรงนั่นเอง เนื่องจากผลจากวิจัยชิ้นหนึ่งได้ระบุไว้ว่า การเลี้ยงลูกด้วยวิธีบังคับ ขึ้นเสียง ทุบตีและกักขังจะทำให้เด็กเกิดความวิตกกังวล ไม่กล้าแสดงออก มีผลกระทบต่อปฏิกิริยาและพัฒนาการทางในสมองในเด็กได้ ศาสตราจารย์ฟรองซ์ซัว มาเฮอและทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยดีมอนเทรียลได้ทดสอบว่า สมองของเด็กตั้งแต่ในช่วงวัยแรกเกิดที่ได้รับการเลี้ยงจากวิธีที่รุนแรงนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร โดยได้ศึกษาจากกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี จำนวน 120 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่มีความวิตกกังวลและกลุ่มที่ได้รับการเลี้ยงดูด้วยวิธ๊การที่รุนแรง ก้าวร้าว โดยได้รับการทดสอบสังเกตได้พฤติกรรมและวิเคราะห์ผลเพื่อวัดประสิทธิภาพสำหรับการทำงานของระบบสมองว่าเป็นไปอย่างไร
หลังจากการทดสอบเสร็จสิ้นไป นักวิจัยได้กล่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่างประสิทธิภาพการทำงานของสมองที่มีต่อความกลัวและความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นกับเด็กแต่ละกลุ่มนั้น ได้ข้อสรุปว่าการที่พ่อแม่เลี้ยงลูกด้วยวิธีที่รุนแรงตั้งแต่ในวัยแรกเกิด ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นเสียงหรือตะคอกเสียงดังกับเด็ก ตีหรือบังคับข่มขู่ด้วยอารมณ์แข็งกร้าว การอบรมสั่งสอนที่ผิดๆ เหล่านี้จะทำให้เด็กเกิดความวิตกกังวล ทำให้เครียดและสร้างความกดดันให้เด็กได้ แท้จริงแล้ว วิธีการเหล่านี้ไม่ใช่วิธีการเลี้ยงลูกที่ถูกต้องเลย เพราะไม่สามารถปลูกฝังระเบียบวินัยและสิ่งดีๆ ให้ลูกรับไปปฏิบัติตามต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพได้เลย
ดังนั้น การเลี้ยงลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิดจนกระทั่งเขาเติบโตด้วยความอ่อนโยนและมีเหตุผลไปพร้อมกัน จะทำให้ลูกเติบโตมาเป็นเด็กดีและซึมซับเอาแต่สิ่งดีๆ จากพ่อแม่ไปได้ ทำให้เขาเป็นเด็กที่มีภาวะจิตใจแข็ง มั่นคงและมีระเบียบวินัยต่อตนเองและสังคมรอบตัวได้มากกว่า โดยพ่อแม่สามารถค่อยๆ ปลูกฝังวิธีการเลี้ยงดูด้วยความรักและความอ่อนโยนอย่างมีเหตุผลไปพร้อมกันนี้ ได้เลยตั้งแต่เขายังเยาว์วัยหรือตั้งแต่แรกเกิดนั่นเอง หากว่าลูกน้อยยังไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณสอนสั่งก็ควรใช้น้ำเสียงบอกเตือนแนะนำลูกด้วยความอ่อนโยน ไม่ดุด่าว่าอย่างแข็งกร้าว และไม่ควรแสดงสีหน้าท่าทางแววตาที่ขึงขังน่ากลัวให้เขาเห็น เพราะจะทำให้เขาหวาดกลัว กลายเป็นเด็กเก็บกดส่งผลให้เป็นเด็กที่ไม่กล้าแสดงออกต่อไปได้อีกด้วย
เพราะฉะนั้น จึงสรุปได้ว่าหากพ่อแม่ต้องการให้ลูกน้อยของคุณเป็นเด็กดี มีพัฒนาการทางสมองที่เป็นไปอย่างดีเยี่ยมล่ะก็ แนะนำเลยค่ะให้นำวิธีการเลี้ยงเขาแบบอ่อนโยน ค่อยๆ สอนสั่งด้วยความนิ่มนวลไปใช้ เพียงเท่านี้เขาก็จะเป็นเด็กดีเลี้ยงง่าย ส่งผลให้สมองมีพัฒนาการในทางที่ดีและกลายเป็นเด็กฉลาดในอนาคตได้ง่ายๆ แล้ว