ใส่ใจ “ความดันโลหิตสูง” โรคที่หากปล่อยไว้ก็อันตรายเช่นกัน

ใส่ใจ “ความดันโลหิตสูง” โรคที่หากปล่อยไว้ก็อันตรายเช่นกัน

ใส่ใจ “ความดันโลหิตสูง” โรคที่หากปล่อยไว้ก็อันตรายเช่นกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปัจจุบันนี้โรคความดันโลหิตสูง คือโรคที่เกิดขึ้นกับผู้คนเป็นจำนวนมาก และที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่านั่นก็คือ คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเป็นโรคความดันโลหิตสูง ขืนปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาก็อาจจะทำให้เกิดโรคร้ายอื่นๆ เพิ่มมาขึ้น วันนี้เราได้นำข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงมาแบ่งปันให้เป็นความรู้ดีๆ กันค่ะ

ใส่ใจ “ความดันโลหิตสูง” โรคที่หากปล่อยไว้ก็อันตรายเช่นกัน
ใส่ใจ “ความดันโลหิตสูง” โรคที่หากปล่อยไว้ก็อันตรายเช่นกัน

สาเหตุที่ทำให้เป็นโรคความดันโลหิตสูง

สำหรับสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูงนั้น ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะพบโรคความดันโลหิตสูงในกลุ่มคนที่มีอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป และผู้ป่วยบางรายที่เป็นโรคดังกล่าวนี้จะมีอาการป่วยเกี่ยวกับสมอง ป่วยจากอาการต่อมหมวกไต รวมทั้งอาการต่อมไร้ท่อบางประเภท และยังรวมไปถึงอาการโรคเรื้อรังอื่นๆ ที่ทำให้หัวใจมีการทำงานที่หนักขึ้นอีกเช่นกัน นั่นก็คือโรคโลหิตจางอย่างรุนแรง โรคเบาหวาน และโรคอื่นๆ

ใส่ใจ “ความดันโลหิตสูง” โรคที่หากปล่อยไว้ก็อันตรายเช่นกัน
ใส่ใจ “ความดันโลหิตสูง” โรคที่หากปล่อยไว้ก็อันตรายเช่นกัน

อาการของผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูง

โดยปกติแล้วผู้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง มักจะไม่มีอาการใดๆ ปรากฏขึ้นให้เห็นได้ชัด ทั้งนี้อาจมีอาการปวดศีรษะ มึนงง เวียนหัว รู้สึกเหนื่อยง่ายผิดปกติ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ มีความสับสน และสูญเสียความจำ แต่ก็ถือเป็นอาการเล็กๆ ที่ทำให้คนเราไม่ค่อยเอะใจสักเท่าไหร่ จึงไม่ค่อยรีบเข้ารับการรักษานั่นเอง เมื่อร่างกายที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงไม่ได้รับการรักษา แน่นอนว่าความดันโลหิตสูงก็จะไม่ได้ถูกควบคุมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เมื่อไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องก็อาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงตามมาได้นั่นเอง

ใส่ใจ “ความดันโลหิตสูง” โรคที่หากปล่อยไว้ก็อันตรายเช่นกัน
ใส่ใจ “ความดันโลหิตสูง” โรคที่หากปล่อยไว้ก็อันตรายเช่นกัน

วิธีป้องกันโรคความดันโลหิตสูง

1.ผู้ที่มีอายุมากถึง 35 ปีขึ้นไป ควรตรวจวัดความดันโลหิตสูงอย่างสม่ำเสมอ

2.ควรหลีกเลี่ยงอาหารเค็มจัด เนื่องจากเกลือจะทำให้ความตึงของผนังหลอดโลหิตแดงนั้นมีเพิ่มขึ้น

3.หลีกเลี่ยงอาหารประเภทกลุ่มไขมัน ไม่ว่าจะเป็น กะทิ เนื้อสัตว์ รวมทั้งอาหารกลุ่มแป้งและน้ำตาลขัดขาวทุกชนิด เนื่องจากจะทำให้น้ำหนักตัวรวมทั้งระดับไขมันในเลือดเพิ่มขึ้น

ใส่ใจ “ความดันโลหิตสูง” โรคที่หากปล่อยไว้ก็อันตรายเช่นกัน
ใส่ใจ “ความดันโลหิตสูง” โรคที่หากปล่อยไว้ก็อันตรายเช่นกัน

4.รู้จักควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้อ้วนจนเกินไป เพราะความอ้วนถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูงได้

5.หมั่นออกกำลังกายบ่อยๆ อาจจะด้วยวิธีการเดินเร็วหรือวิ่งเหยาะๆ และการปั่นจักรยานก็ถือเป็นวิธีที่ดีเช่นเดียวกัน

6.ให้เวลาแก่ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ที่สำคัญไม่ควรเครียดหรือวิตกกังวลใดๆ เพราะการทำให้จิตใจรู้สึกเบิกบานนั้นจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้

สำหรับใครที่เริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีอาการดังที่กล่าวไว้ข้างต้นนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือการรู้จักป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เป็นโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากโรคนี้มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาได้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook