เครียด อาการยอดฮิตรับลมร้อน

เครียด อาการยอดฮิตรับลมร้อน

เครียด อาการยอดฮิตรับลมร้อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

หลายๆ คนที่กำลังมีความเครียดอยู่ ไม่ว่าจะเครียดจากที่ออฟฟิศ เครียดจากการที่จะต้องมาผจญกับสภาวะการจราจรติดขัด ซึ่งอากาศร้อนๆ อย่างนี้ ยิ่งช่วยเสริมให้ดีกรีความเครียดพุ่งกระฉูดขึ้นไปใหญ่ ถ้าขืนปล่อยทิ้งไว้ รับรองสุขภาพเสียหมดแน่ ว่าแล้วเลยนำเรื่องราวเกี่ยวกับความเครียดมาฝาก เพื่อที่คุณจะได้ทำความรู้จักและจัดการกับมันได้อย่างถูกวิธี

+ ความเครียดก่อเกิดโรคเครียด
ต้องขอบอกก่อนว่า โรคเครียดไม่ใช่โรคจิตหรือโรคประสาท แต่หากเป็นโรคที่มีความผิดปกติทางด้านความกังวล อันเป็นผลจากความเครียด ความเครียดนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน เมื่อเครียด ระบบประสาทอัตโนมัติจะถูกกระตุ้นให้ทำงานมากเกินไปจนอาจเกิดการรวน ส่งผลให้อวัยวะภายในร่างกายที่ถูกควบคุมโดยประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติไป ด้วย เช่น มีการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ ความเครียดอาจทำให้เกิดโรคหัวใจ ไมเกรน หรือโรคปวดหลัง ปวดคอ ด้วย

 

+ สาเหตุของความเครียด-เกิดร่วมกันทั้งจากทางร่างกายและจิตใจ
ทางร่างกาย คนที่ป่วยเป็นโรคเครียด ก้านสมองจะมีความไวกว่าปกติ ทำให้รู้สึกกังวลและมีอาการทางระบบประสาทอัตโนมัติเร็วเกินไปและมีระดับสาร เคมีในสมองพวกนอร์อีพิเนพฟรินสูง
ทางจิตใจ เกิดจากความเครียดที่มาจากชีวิตประจำวันและนิสัยของแต่ละคน อย่างคนที่มีนิสัยวิตกกังวลง่าย ก็จะทำให้เกิดอาการเครียดขึ้นได้ง่าย

 

+ ความเครียดกับฮอร์โมน
เมื่อคนเราเกิดภาวะกดดันหรือเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน Cortisol และ Adrenaline ออกมา ซึ่งฮอร์โมนนี้จะทำให้ความดันโลหิตสูงและหัวใจเต้นเร็ว เพื่อเตรียมพร้อมให้ร่างกายมีพลังที่จะกระทำ ถ้าหากมีการ

กระทำแล้ว ฮอร์โมนดังกล่าวจะถูกใช้หมดไป แล้วความเครียดก็จะหายไป แต่ถ้าเป็นความเครียดเรื้อรังที่เกิดจากที่ทำงานหรือจากความกลุ้มใจ จะเป็นความเครียดที่ไม่สามารถกระทำออกมาได้และเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว จะทำให้ฮอร์โมนเหล่านี้ถูกสะสมในร่างกายจนกระทั่งเกิดอาการแสดงออกมาทางร่าง กายและจิตใจ


+ วิธีรับมือกับความเครียด
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังผจญอยู่ กับเรื่องเครียดทุกๆ วัน ลองเอาวิธีข้างล่างนี้ไปใช้ดูสิ เผื่อจะช่วยลดดีกรีเครียดลงได้บ้าง

1. เข้านอนและตื่นให้เป็นเวลา ส่วนมากคนที่เครียดมักจะมีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับ ลองปรับระยะเวลาการนอนให้เหมาะสม อย่างเข้านอนช่วงสี่ทุ่มและพยายามตื่นแต่เช้า เพื่อให้ร่างกายได้รับอากาศบริสุทธิ์ก็จะช่วยทำให้สมองปลอดโปร่งขึ้น หายเครียดได้

2. แบ่งเวลางานให้เหมาะสม วันๆ หนึ่งคุณไม่ควรลุยงานโดยไม่มีการพักตลอด 8 ชั่วโมง ควรหาเวลาพักกล้ามเนื้อยืดเส้นยืดสายบ้าง หรือถ้าลาพักร้อนสัก 2-3 วันได้ยิ่งดี

3. ควรหางานอดิเรกทำ อย่าง ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายได้เกิดความผ่อนคลาย

4. กินผักให้มากๆ เพราะจะทำให้สมองสร้าง Serotonin ซึ่งสารตัวนี้จะมีบทบาทช่วยลดความเครียดได้

5. ถ้าถึงขั้นเป็นโรคเครียดจะมีการรักษาแบบจิตบำบัด โดยจะเน้นการรักษาแบบจิตวิเคราะห์ ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยสามารถปรับตัวและปรับปรุงบุคลิกภาพให้มีความยืดหยุ่นได้ ดีขึ้น

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook