ข้อห้ามของการล้างพิษตับ

ปัจจุบันมีวิธีดูแลสุขภาพจากภายในอยู่หลายวิธี และที่กำลังฮอตฮิตอยู่ในขณะนี้ก็คือ การล้างพิษตับ การทำวิธีนี้ใช่ว่าจะสามารถทำได้ทุกคนนะคะ สำหรับผู้ที่กำลังคิดที่จะล้างพิษตับจึงต้องรู้ถึงข้อห้ามในการล้างพิษตับกันเสียก่อนค่ะ ถึงแม้ว่าการล้างพิษตับจะเป็นกระบวนการทางธรรมชาติอย่างหนึ่ง เราสามารถทำเองได้ที่บ้าน มีความปลอดภัยสูงก็ตามแต่ถ้าหากใครที่ตกอยู่ในข้อห้ามหรือเงื่อนไขดังนี้ ต้องการที่จะล้างพิษตับขึ้นมา ก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์ก่อนนะคะเพื่อความปลอดภัย สิ่งที่ควรระวังนั้นก็คือ

1. ผู้ป่วยที่มีภาวะลำไส้อุดตัน
การล้างพิษตับเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่งการอุดตันของลำไส้เล็กนั้นมีสาเหตุมาจากขบวนการทางพยาธิวิทยาหลายอย่าง เช่น อาจจะเกิดจากพังผืดหลังการผ่าตัด หรืออาจจะมาจากการมีก้อนเนื้อร้าย ในช่องท้อง และโรคไส้เลื่อน อาจเป็นสาเหตุของภาวะลำไส้อุดตันได้ทั้งสิ้น

2. ผู้ที่มีภาวะอ่อนเพลีย
ผู้ที่ผอมแห้ง มีน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานมาก ๆ ถ้าผู้ที่มีภาวะอ่อนเพลียและผอมแห้งต้องการทำการล้างพิษตับ สิ่งที่ต้องทำก่อนเป็นอันดับแรกนั่น ก็คือ การเพิ่มความแข็งแรง ความสมบูรณ์ของร่างกายก่อน เป็นสิ่งที่สำคัญอันดับแรกเลยค่ะ เมื่อมีน้ำหนักที่ใกล้เคียงคนมีสุขภาพดีมากขึ้น และรู้สึกแข็งแรงขึ้นเมื่อใด ท่านก็สามารถทำการล้างพิษตับครั้งที่ 1 ได้

3. ผู้มีภาวะติดเชื้อเฉียบพลัน
ห้ามทำการล้างพิษตับเด็ดขาดค่ะ และผู้ที่มีภาวะท้องผูกหรือริดสีดวงทวาร เพราะการบ้างพิษตับจะทำให้มีการบวมคั่งของเส้นเลือดขอดในลำไส้ใหญ่ จะมีสาเหตุมาจากภาวะท้องผูกเรื้อรัง ถ้าหากมีอาการท้องผูกและยังคงพยายามทำการล้างพิษตับอยู่ ส่วนผสมของน้ำจะถูกกักและค้างอยู่ที่กระเพาะอาหารเป็นเวลานานขึ้น และในที่สุดลิ้นหูรูดหลอดอาหารจะเปิด ทำให้รู้สึกคลื่นไส้คล้ายจะเป็นลม และอาเจียนในที่สุด

4. สตรีที่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์และให้นมบุตร
รวมถึงในช่วงมีประจำเดือนด้วย เพราะจะทำให้การล้างพิษตับขับพิษได้น้อยลง ทางที่ดีควรทำก่อนหรือหลังการมีประจำเดือนจะดีกว่าค่ะ

5. ผู้ที่มีอาการของโรคเบาหวาน
ถ้าหากท่านมีปัญหาโรคเบาหวานอยู่ท่านอาจจะต้องรักษาสภาวะสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ตลอดขั้นตอนการล้างพิษตับ นั่นเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุด ในการอดอาหารนั้นอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดปั่นป่วน สิ่งที่สำคัญที่สุดของผู้ป่วยเบาหวาน นั่นคือการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตและการรับประทานอาหารที่จำเป็น และในภายหลังจากที่ภาวะน้ำตาลในเลือดของคุณอยู่ในระดับปกติแล้ว คุณจึงค่อยเริ่มทำการล้างพิษตับได้ค่ะ

คุณรู้หรือไม่ว่าการล้างพิษตับจะช่วยให้ร่างกายสามารถล้างพิษและรักษาตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นยาต้านภาวะซึมเศร้า ยาต้านการอักเสบ ยาปฏิชีวนะต่างๆ ล้วนแต่ทำงานตรงข้าม มันจึงถือเป็นความเสี่ยงต่อร่างกายที่จะทำให้มีสภาวะสองอย่างที่ไม่เข้ากัน และเป็นกระบวนการตรงกันข้ามกันอยู่ในร่างกายในขณะเดียวกัน ซึ่งการกินยาแผนปัจจุบันในขณะที่ทำการล้างพิษตับนั้นจะเปลี่ยนความเข้มข้นของยาให้อยู่ระดับที่ไม่น่าปรารถนา เพราะฉะนั้นแล้ว สิ่งนี้ถือเป็นคำเตือนที่ต้องระวัง เมื่อใดที่สามารถหยุดยาแผนปัจจุบันได้แล้ว คุณสามารถที่จะทำการล้างพิษตับได้อย่างปลอดภัย