วิธีลดต้นขาแบบง่ายๆ สำหรับสาวขาใหญ่

แน่นอนว่าสาวๆ ใครก็อยากมีรูปร่างที่ดีสมสัดส่วน แต่ส่วนใหญ่แล้วสาวๆ มักจะมีปัญหาในเรื่องของต้นขาที่มีขนาดใหญ่จนทำให้เกิดความไม่มั่นใจ วันนี้เรามีคำแนะนำดีๆ เป็นวิธีลดต้นขาแบบง่ายๆ สำหรับสาวขาใหญ่มาฝากกันค่ะ

ท่าที่ 1 ต้องใช้ตัวช่วยอย่างเวทที่มีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม โดยให้นอนลงกับพื้นแล้วผูกเวทติดไว้ที่ขา แล้วยกขาให้สูงขึ้นจากพื้น 45 องศา อย่างช้า ๆ นับ 1-5 แล้ววางลง จนเมื่อร่างกายเริ่มชินกับน้ำหนักของเวท ให้ยกขาขึ้นลงด้วยความเร็วมากขึ้น โดยในท่านี้ควรทำทีละข้าง ครั้งละ 3 เซต เซตละ 10 ครั้ง หมั่นทำบ่อย ๆ อาทิตย์ละ 2-3 ครั้งค่ะ เมื่อทำจนชำนาญแล้ว ก็อาจจะยกขาให้สูงขึ้นกว่าเดิมได้ค่ะ

ท่าที่ 2 ท่านี้จะใช้เป็นการบริหารต้นขาด้านหน้าได้อย่างดีเลยล่ะ โดยให้คุณสาวๆ นอนหงาย แล้วสอดมือทั้ง 2 ข้างรองก้นไว้ งอเข่าซ้ายขึ้นมาเข้าหาอก แล้วยกเหยียดขาขวาขึ้นข้างบนอย่างช้าๆ เมื่อเหยียดขาขวาจนสุดแล้ว ให้ค้างอยู่ในท่านั้นสักครู่ เพื่อให้เกิดความรู้สึกตึงที่ต้นขาด้านหน้า และด้านหลังของลำขาจากนั้นกลับสู่ท่าเริ่มต้น โดยเปลี่ยนเป็นงอเข่าขวาเข้าหาอก แล้วเหยียดขาซ้ายยกขึ้นสูงแทน ทำ 3 เซ็ตๆ 10-15 ครั้ง ต่อวัน และควรทำเป็นประจำ 3-5 วันต่อสัปดาห์ค่ะ

ท่าที่ 3 ท่านี้เป็นวิธีลดต้นขาด้านในค่ะ เริ่มจากการนอนราบลงบนพื้น ไขว้ข้อเท้าไว้ด้วยกัน จากนั้นพยายามงอเข่าให้เข้ามาชิดตัวให้มากที่สุด โดยที่ข้อเท้ายังไขว้กันอยู่ จากนั้นก็ยืดขาออก คลายเท้าทั้งสองออกจากกัน แล้วกลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำประมาณ 24 ครั้งต่อวัน จะช่วยให้ต้นขาด้านในดูเล็กลงได้ทีเดียวล่ะ

ท่าที่ 4 ท่านี้ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่นเลยค่ะ โดยให้คุณสาวๆ อยู่ในท่ายืน แล้วยกขาข้างหนึ่งไปข้างหน้า ปลายเท้าชี้ขึ้นฟ้า จากนั้นค่อยๆ ลากขามาข้างหลัง จากนั้นไขว้ไปที่ขาอีกข้างแล้วค้างไว้นานประมาณ 20 วินาที จากนั้นสลับมาทำอีกข้าง จะช่วยให้ต้นขาเล็กลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ แถมท่านี้ยังทำได้ง่าย ๆ แม้คุณจะยืนทำอะไรอยู่ก็ตาม

ท่าที่ 5 เป็นวิธีที่ทำง่ายๆ เพียงแค่เวลาที่คุณนั่ง ไม่ว่าจะเป็นนั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือ นั่งดูทีวี ให้คุณนำสมุดโทรศัพท์เล่มหนา หรือหนังสืออะไรก็ได้ที่หนาๆ ไม่ต่ำกว่า 5 เซนติเมตร มาหนีบไว้ที่ระหว่างขาให้แน่นๆ จนรู้สึกเมื่อย ทนไม่ไหวก็ให้คลายสักครู่ แล้วทำต่อค่ะ ความเมื่อยที่คุณรู้สึกได้ จะช่วยลดต้นขาได้ดีเลยล่ะ

สิ่งสำคัญของการมีรูปร่างที่ดีสมสัดส่วน นอกจากจะต้องออกกำลังกายและบริหารร่างกายบ่อยๆ แล้ว ยังต้องใส่ใจในเรื่องของอาหารการกินด้วย พยายามกินอาหารที่ดีมีประโยชน์โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่ต้องรับประทานให้มากกว่าเนื้อสัตว์ และหมั่นควบคุมน้ำหนักของตัวเองให้คงที่อยู่เสมอ