เทคนิคดีๆ ช่วยให้การทาลิปสติกติดทนนานยิ่งขึ้น

ริมฝีปากของผู้หญิงเราย่อมช่วยสะท้อนความงามของผู้หญิงได้อย่างเด่นชัดไม่แพ้ส่วนอื่น และการทาลิปสติกสีสดสวยนี่แหละที่จะยิ่งเติมเต็มความงามให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นได้

ขณะเดียวกัน เคยเป็นกันไหมคะยังไม่ทันที่จะพ้นข้ามวันเลย บางทีแค่กินอาหารหรือดื่มน้ำเข้าไปสีของลิปสติกก็หลุดออกซะแล้ว เพราะฉะนั้น เราคงต้องมองหาเทคนิคดีๆ มาช่วยเสริมสีของลิปสติกให้ติดทนนานมากขึ้นแล้วล่ะ

ทาลิปไพร์เมอร์
ก่อนทาลิปสติกทุกครั้งแนะนำให้สาวๆ ทาลิปไพร์เมอร์ลงไปก่อนค่ะ จากนั้นจึงทาลิปสติกตามปกติ วิธีนี้จะช่วยให้สีของลิปสติกที่คุณทา ติดทนนานตลอดวันมากขึ้นนั่นเอง

ทาทับด้วยลิปไลเนอร์
หลังจากลงด้วยลิปไพร์เมอร์ไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนี้ให้สาวๆ มาลองทับตามด้วยลิปไลเนอร์กันบ้าง สำหรับลิปไลเนอร์นั้นไม่ได้เอาไว้ทากรอบปากให้คมกริบได้รูปสวยเท่านั้นนะคะ แต่ยังทาลงบนริมฝีปากหลังจากสาวๆ ทาลิปไพร์เมอร์เสร็จแล้วได้ด้วย สีของลิปสติกที่คุณทาทับลงไปอีกครั้งก็จะยิ่งติดแน่นยาวนานเพิ่มขึ้นได้อย่างใจแน่นอน

ทาลิปสติกที่มีคุณภาพดีติดทนนาน
แนะนำให้เลือกซื้อลิปสติกทาปากที่มีคุณสมบัติทำให้สีติดทนนานดีกว่า หลังจากที่คุณทาลิปไพร์เมอร์และลิปไลเนอร์ลงไปเสร็จแล้วก็ทาลิปสติกสีที่ต้องการแต่มีคุณสมบัติติดทนนานตามได้เลย จากนั้นทาทับด้วยลิปกลอส รับรองค่ะว่าริมฝีปากจะสวยเปล่งประกายซึ่งสีสันที่โดดเด่นและอวบอิ่มแลดูสุขภาพดีน่าจูจุ๊บสุดๆ เลยล่ะ

ใช้แป้งฝุ่นกับกระดาษทิชชูเป็นตัวช่วย
หลังจากทาด้วยลิปไพร์เมอร์ ลิปไลเนอร์และลิปสติกปกติแล้ว หากระหว่างวันเกรงว่าสีจะซีดเซียวหลุดลอกออกไป คุณสามารถนำกระดาษทิชชูโดยคลี่ออกมาอีก 1 แผ่นจากคู่ของมัน โดยนำมาวางแปะบนริมฝีปากแล้วใช้พัพฟ์หรือแปรงแต้มแป้งฝุ่นโปร่งแสงมาปัดลงเบาๆ บนกระดาษทิชชูค่ะ เพียงเท่านี้ก็จะยิ่งช่วยให้การทาลิปสติกติดทนนานมากขึ้นตลอดวันได้อย่างง่ายๆ แล้ว

สครับผิวริมฝีปาก
อีกหนึ่งตัวการที่ทำให้ทาลิปสติกแล้วสีไม่ติดทนนานก็เนื่องจาก เราไม่ได้สครับผิวริมฝีปากบ้างนั่นเอง ทำให้ทาแล้วเกิดขุยลอกล่อนได้ง่าย และแน่นอนว่าเนื้อลิปที่ทาเสร็จแล้วย่อมไม่สวยเรียบเนียนอีกด้วย เพราะฉะนั้น หันมาสครับริมฝีปากกันบ้างนะคะ อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ การทาลิปสติกครั้งต่อไปของคุณรับรองลิปสติกสีสวยสดติดทนนานแน่นอน

หากที่ผ่านมามีปัญหาการทาลิปสติกอยู่ตลอด จากนี้เชื่อว่าสาวๆ คงจะแก้ปัญหากันได้แล้วนะคะ