เคล็ดลับปราบพยศเมื่อลูกเบื่ออาหาร
ถึงเวลาที่ลูกน้อยต้องทานอาหารเสริมนอกเหนือจากการทานนมแม่อย่างเดียวกันแล้วละค่ะ เมื่อลูกอายุ 6 เดือนเมนูอาหารสำหรับลูกส่วนใหญ่จะเป็น ข้าวบดกับไข่แดง ข้าวบดกับปลา ข้าวบดกับกล้วย ข้าวบดกับตับ พอเริ่มโตขึ้นมาอีกนิดหนึ่งก็เริ่มให้ทานข้าวสวยกับแกงจืดเต้าหู้ เป็นต้น พอหลังจากลูกอายุได้ประมาณ 1 ขวบ คุณแม่ก็จะเริ่มให้อาหารจำพวกผัก หรืออาหารที่มีรสชาติได้แล้ว ดังนั้น เด็กในวัยนี้จะเริ่มมีพัฒนาการด้านการรับรส สี และกลิ่นของอาหาร ดังนั้นเมื่อเขาได้รับอาหารที่เขารู้สึกว่าไม่ชอบก็จะมีอาการต่อต้านไม่ยอมทาน อย่างเช่น ต้นหอม ไม่ชอบหมูสับ แต่จะทานแต่กุ้ง แกงจืดเต้าหู้จะต้องไม่ใส่สาหร่าย เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณแม่เริ่มจะเหนื่อยใจกันแล้วสินะคะ เพราะคุณแม่ทุกคนต่างก็ต้องการให้ลูกน้อยนั้นได้กินอิ่ม และได้รับสารอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ ไม่ต้องกังวลกันต่อไปแล้วค่ะ วันนี้เรามีคำแนะนำดีๆ เป็นเคล็ดลับปราบพยศเมื่อลูกเบื่ออาหารมาฝากกันค่ะ
1. ตักอาหารให้ลูกอย่างเหมาะสม
คุณแม่ควรตักอาหารให้ลูกครั้งละน้อยๆ ถ้าไม่อิ่มแล้วจึงค่อยตักเพิ่มให้อีกครั้งจะดีกว่าค่ะ เพราะการตักอาหารให้ลูกมากๆ นั้นจะทำให้ลูกรู้สึกท้อและไม่อยากฝืนในการรับประทานข้าวให้หมดจานค่ะ
2. จัดอาหารที่เหมาะสมกับวัยของลูก
รวมไปถึงการเลือกรสชาติของอาหารนั้นๆ ด้วย อย่างเช่น ถ้าลูกไม่ชอบทานผัดผัก ก็ลองเปลี่ยนมาเป็นเมนูผักชุบแป้งทอดบ้าง หรือซุบบ้าง อย่างเช่น ฟักทอง แครอท หน่อไม้ฝรั่ง นำไปชุบแป้งทอดแล้วให้ลูกทานคู่กับซอสมะเขือเทศ เชื่อได้ว่าเป็นเมนูที่เพิ่มรสชาติที่แปลกใหม่ให้กับลูกๆ ได้แน่นอนเลยค่ะ
3. หัดให้ลูกรับประทานอาหารเอง
คุณแม่ควรปล่อยให้ลูกหัดตักอาหารรับประทานเองบ้าง อาจจะหกเลอะเทอะไปหน่อยก็ไม่เป็นไร เพราะนั่นเป็นการพัฒนาการเรียนรู้ให้ลูกรู้จักการหัดใช้มือ และในที่สุดลูกก็จะสามารถตักอาหารใส่ปากได้เอง และยิ่งจะทำให้เขารู้สึกสนุกกับการทานอาหารในแต่ละมื้อด้วยค่ะ
4. จำกัดเวลาในการรับประทานอาหาร
คุณแม่ควรกำหนดเวลาในการรับประทานอาหารของลูกน้อยในแต่ละมื้อให้เหมาะสมด้วย โดยทั่วไปควรไม่เกิน 30-45 นาที และไม่ควรบังคับให้ลูกทานข้าวจนหมดจาน ถ้าลูกไม่ยอมทานต่อ ก็ควรจะเก็บอาหารในมื้อนั้นเสียก่อน แล้วควรให้ลูกดื่มน้ำตามอีก 1 แก้วเพื่อให้ลูกอิ่มในมื้อนั้นค่ะ
5. การให้คำชม
เมื่อลูกทานอาหารหมด หรือทานอาหารเมนูใหม่ๆ ได้ คุณแม่หรือคนรอบข้างควรให้คำชื่นชมเพราะนอกจากที่ลูกจะรู้สึกดีกับอาหารมื้อนั้นแล้วลูกของคุณยังอยากที่จะทดลองทานอาหารเมนูใหม่ๆ รสชาติใหม่ๆ ที่คุณจะทำให้เขาทานต่อไปอีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้ การดูแลลูกรักของคุณไม่ใช่แค่ใส่ใจในเรื่องของอาหารการกินเพียงเท่านั้น การออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ อย่างสม่ำเสมอก็มีความสำคัญไม่แพ้กันนะคะ คุณควรหาเวลาว่างพาลูกๆ ออกไปวิ่งเล่นหรือหากิจกรรมภายในบ้านทำร่วมกันเพื่อให้เขาเติบโตมาอย่างมีประสิทธิภาพและมีร่างกายที่แข็งแรงด้วยค่ะ