3 สิ่งที่ไม่ควรทำ! หากไม่อยากให้สุขภาพจิตพังลง
ปัญหาสุขภาพจิตกลายเป็นสิ่งใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม เนื่องจากชีวิตประจำวันที่เราต้องเผชิญกับความตึงเครียด ความเร่งรีบและการแข่งขันที่สูงจนทำให้เกิดความกดดันโดยไม่รู้ตัว
อีกทั้งความเคยชินในการใช้ชีวิต ทำให้เรามักมองไม่เห็นภัยเงียบจากสิ่งเหล่านี้ที่จะกลายเป็นตัวแปรทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตแบบเรื้อรัง ดังนั้น ก่อนที่จะสายเกินไปลองมาเช็คตัวเองกับ 3 พฤติกรรมต่อไปนี้ที่ควรเลิกก่อนจะบ่อนทำลายคุณภาพชีวิตตามมา
1.มองข้ามการออกกำลังกาย
การออกกำลังกายไม่ใช่ตัวช่วยทำให้สุขภาพกายของเราดีเท่านั้น แต่มันยังมีส่วนช่วยกระตุ้นให้สุขภาพจิตสดชื่นสดใส กลายเป็นคนกระปรี้กระเปร่าและคล่องแคล่ว ส่วนใครที่มองข้ามการออกกำลังกายไป มักจะเผชิญกับอาการซึมเศร้า เบื่อหน่าย รู้สึกง่วงเหงาหาวนอน กลายเป็นคนขี้เกียจ สุขภาพกายทรุดโทรม เชื่อมโยงไปจนถึงสุขภาพจิตได้โดยตรงอีกด้วย
2.เอาแต่จดจ้องอยู่กับมือถือ
ในยุคที่สม์ทโฟนมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก ทำให้เรามักหมกมุ่นอยู่กับการใช้โทรศัพท์เช็คข้อมูลข่าวสาร พูดคุยกับเพื่อน ดูหนังฟังเพลง เล่นเกมส์ และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้คนส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการเล่นมือถือในแต่ละวันจนแทบจะลืมโลกแห่งความจริง การเอาแต่นั่งจิ้มมือถืออยู่ตลอดเวลา จะทำให้กลายเป็นคนเสียสมาธิ มีปัญหาทางด้านความจำ เป็นคนขี้ลืม กินข้าว ทำงาน หรือพักผ่อน ก็มักจะมีแว่บนึงในสมองที่อยากจะหยิบมือถือขึ้นมาเล่นด้วยความเคยชิน พฤติกรรมแบบนี้จะทำให้สุขภาพจิตรู้สึกเครียด สมองได้รับข้อมูลต่างๆ อยู่ตลอดเวลาจนไม่ได้พักผ่อน เสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า พฤติกรรมชอบอยู่คนเดียว หมกมุ่นอยู่กับโลกส่วนตัวมากเกินไป อีกทั้งยังทำให้ดวงตาเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย
3.มีความสัมพันธ์ในแง่ลบกับผู้คน
ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว คนรัก หรือเพื่อนฝูง หากความสัมพันธ์เหล่านั้นไม่ได้ราบรื่นและสวยงาม แต่มักจะต้องเผชิญกับความเกรี้ยวกราดทางอารมณ์ การทะเลาะเบาะแว้ง ความขุ่นข้องหมองใจทุกครั้งที่พบเจอหน้ากัน เป็นต้นตอที่จะทำลายสุขภาพจิตโดยตรง จากคนที่ร่าเริงก็สามารถกลายเป็นคนคิดมาก ซึมเศร้าและรู้สึกว่าชีวิตตัวเองมีแต่เรื่องเลวร้ายได้ หากปล่อยทิ้งเอาไว้นานจะกลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ลบ ทำร้ายตัวเองและถึงขั้นหาทางออกด้วยการฆ่าตัวตายเอาได้ เพื่อเป็นการหยุดความสัมพันธ์แย่ๆ เหล่านั้น ต้องรีบหาทางออก และพาตัวเองออกมาในจุดที่ดีกว่าให้ได้โดยเร็วที่สุด
ปัญหาในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพจิตยังมีอีกหลายอย่างที่เราต้องเผชิญหน้า การต่อสู้เพื่อให้ตัวเองกลับมามีกำลังใจอีกครั้งจะต้องเริ่มจากตัวเราเอง การเปลี่ยนมุมมองและพยายามปล่อยวางจะช่วยให้ทุกอย่างที่เลวร้ายดูบางเบาลงไปได้ไม่มากก็น้อยค่ะ