โรคไวรัสเมอร์ส อาการและวิธีการป้องกันที่ควรรู้
ข่าวการระบาดของโรคร้ายที่มีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสเมอร์ส ที่เกิดขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้ และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทำให้หลายคนถึงขั้นกังวลใจกลัวว่าเชื้อโรคเหล่านั้นจะถูกแพร่เชื้อมาถึงตัวเอง
แต่ทั้งนี้ก็อย่าชะล่าใจไปค่ะ เพราะเรื่องแบบนี้ ไม่เคยเข้าใครออกใคร หรือถ้าพูดกันแบบง่ายๆ ก็คือ ใครไม่ดูแลตัวเองหรือไม่รู้วิธีการป้องกัน ก็อาจจะต้องเสี่ยงกับปัญหาของโรคชนิดนี้ได้ วันนี้เราได้นำข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับโรคไวรัสเมอร์สมาฝาก เพื่อให้ทุกคนได้ทันเตรียมตัวและป้องกันตัวเองให้พ้นจากโรคชนิดนี้ไปได้ ตามไปอ่านพร้อมกันเลยนะคะ
ไวรัสเมอร์สกับต้นกำเนิดที่ควรรู้
ไวรัสเมอร์สมาจากคำในภาษาอังกฤษว่า Middle East respiratory syndrome coronavirus (MERS-CoV) หรือเรียกว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ตะวันออกกลาง เป็นเชื้อไวรัสที่มีผลวิจัยระบุว่ามีแพะเป็นพาหะนำเชื้อ แถมยังเป็นเชื้อไวรัสที่ใกล้เคียงกับไวรัสในค้างคาวสายพันธุ์หนึ่งอีกด้วย ทั้งนี้ไวรัสเมอร์สยังเป็นไวรัสตัวเดียวกับไวรัสที่อยู่ในโรคซาส์ ซึ่งเป็นโรคที่เคยทำให้ชาวโลกกลัวกันมาก่อน เพราะได้มีการแพร่ระบาดอย่างหนักในเอเชียเมื่อปี พ.ศ. 2546 ที่ผ่านมานั่นเอง
อาการของการติดเชื้อไวรัสเมอร์ส
สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสเมอร์สหรือไวรัสโคโรน่า โดยทั่วไปนั้นจะมีอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาการจะค่อนข้างรุนแรงและเฉียบพลัน มีอาการไอ มีไข้สูง หายใจลำบากหรือหายใจหอบ อีกทั้งผู้ป่วยเกือบทุกรายที่ติดเชื้อไวรัสตัวนี้จะมีภาวะปอดบวม และจะมีอาการในระบบทางเดินอาหารอีกด้วย เช่น ท้องร่วง ร่วมด้วยผู้ป่วยบางรายอาจมีภาวะไตวายได้ ส่วนระยะในการฟักตัวของการติดเชื้อไวรัสเมอร์สนั้นโดยเฉลี่ยมีระยะฟักตัวประมาณ 14 วัน ส่วนการแพร่การติดเชื้อไวรัสเมอร์ส ยังไม่มีข้อมูลที่ระบุอย่างชัดเจนว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสนี้ได้อย่างไร ในขณะนี้ยังคงมีการดำเนินการสอบสวนโรคเพื่อหาแหล่งที่มาของเชื้อไวรัสที่ชัดเจนและถูกต้องต่อไป
การป้องกันการติดเชื้อไวรัสเมอร์ส
1. ควรหลีกเลี่ยงการคลุกคลีและใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอหรือจาม หรือผู้ป่วยที่มีโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน
2. ควรล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ โดยเฉพาะในช่วงหลังการสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย รวมทั้งก่อนรับประทานอาหารและหลังขับถ่ายทุกครั้ง
3. หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่แออัด หรือชุมชนสาธารณะที่มีผู้คนอยู่จำนวนมาก เพื่อเป็นช่องทางในการลดความเสี่ยงในการติดโรคได้
4. สวมหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกเวลามีอาการไอหรือจาม
5. หมั่นปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยที่ดี ได้แก่ กินร้อน ช้อนกลางและล้างมือ
ไม่ยากถ้าไม่อยากเผชิญกับโรคไวรัสเมอร์สที่แสนน่ากลัวนี้ เพราะหากปฏิบัติตามวิธีการป้องกันที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ เชื่อว่าไวรัสเมอร์สคงไม่สามารถเข้ามาประชิดตัวเราได้แน่นอนค่ะ
ภาพประกอบจาก http://kaewsaiidea.com/