คุณแม่ตั้งครรภ์ทานหวานแค่ไหนจึงจะดี
คุณแม่หลายท่านที่ชอบทานของหวานต่างๆ มักเข้าใจกันว่าการที่เราได้ทานหวานแล้วจะทำให้อารมณ์ดี สดใส สดชื่น อาจจะจริงอยู่ที่เป็นเช่นนั้น เพราะมันช่วยปรับสภาวะอารมณ์ของคนเราได้ เราจึงทานแล้วรู้สึกดี แต่เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์แล้วปริมาณความหวานก็ควรจำกัดทานแค่เพียงพอดีเท่านั้น โดยคุณแม่ควรทราบด้วนว่าความหวานทั้งหลายนั้นมาจากแหล่งใดบ้างไม่ว่าจะเป็นจากอาหารที่ให้คาร์โบไฮดเดรตอย่างข้าวนี่ก็ใช่ จากน้ำตาลทราย น้ำผึ้งและผลไม้ สำหรับความหวานเหล่านี้คุณแม่สามารถทานได้ตามปกติ คือทานไม่เกินวันละ 4-6 ช้อนชาค่ะ ยกเว้นก็แต่คุณแม่ที่เป็นเบาหวานเพราะต้องควบคุมปริมาณน้ำตาลเป็นพิเศษ คือจำกัดทานไม่เกิน 5-10% จากความต้องการของพลังงานทั้งหมด โดยเฉลี่ยได้ที่ 1-2 ช้อนชาต่อวันนั่นเอง
ขนมหวานต่างๆ มีหลากหลายประเภทด้วยกันและสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
- ขนมหวานน้ำตาลสูง ได้แก่ ขนมหวานประเภทเชื่อม อย่างทองหยิบ ทองหยอด กล้วยเชื่อมและช็อกโกแลต
- ขนมหวานน้ำตาลปานกลาง อย่างขนมไทยที่มีน้ำกะทิเป็นส่วนผสม เช่น แกงบวชและขนมอบต่างๆ
- ขนมหวานน้ำตาลน้อย โดยมักจะผลิตขึ้นในรูปแบบพิเศษ เช่น ไอศกรีม Sugar Free น้ำผลไม้ปั่นและผลไม้สด ฯลฯ และถึงแม้ว่าขนมหวานเหล่านี้จะมีน้ำตาลน้อย หากก็ผลิตขึ้นในปริมาณที่มีไขมันสูงด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้น คุณแม่ท้องควรเลือกทานแต่เพียงน้อยๆ หรือพอดีจะดีกว่า
นอกจากนี้ บรรดาความหวานที่เราทานกันมักจะมาในรูปแบบของเครื่องดื่มอีกด้วย โดยคุณควรระวังมากเป็นพิเศษ เช่น ในน้ำอัดลม 1 กระป๋อง มีน้ำตาล 7-10 ช้อนชา นมเปรี้ยวขนาด 80 มิลลิลิตร มีนำตาลประกอบ 2-3 ช้อนชา ชามะนาว ชาเขียว น้ำเก็กฮวย น้ำขิงและน้ำผลไม้ปั่นมีน้ำตาลประกอบ 1-2 ช้อนโต๊ะหรือ 3-6 ช้อนชานั่นเอง เมื่อคุณแม่ทราบระดับปริมาณความหวานที่มาพร้อมเครื่องดื่มเหล่านี้แล้วก็ควรใส่ใจการดื่มแต่ละประเภทกันอย่างพอดีนะคะ
เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวน้ำตาลที่ให้ความหวาน
- น้ำตาลเทียม สำหรับคุณแม่ท้องที่สุขภาพแข็งแรงทั่วไปสามารถทานความหวานจากธรรมชาติที่มีอยู่ได้ตามปกติ แต่ยกเว้นคุณแม่ที่เป็นเบาหวานอาจจะมาพร้อมน้ำหนักตัวมากเป็นพิเศษ ดังนั้น อาจจะต้องได้รับสารที่ให้ความหวานอย่างน้ำตาลเทียมแทนค่ะ แต่ทั้งนี้ คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อคำนึงถึงปริมาณความเหมาะสมไปพร้อมกัน
- น้ำตาลทรายทั่วไป คุณแม่สามารถทานได้ทั้งน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายแดงค่ะ แต่หากเป็นไปได้แนะนำให้ทานน้ำตาลทรายแดงจะดีกว่า เพราะยังคงเหลือวิตามินและเกลือแร่มากกว่าน้ำตาลทรายขาวที่ถูกขัดสีออกไป
- ไม่ควรทานในปริมาณมากเกินไป หากคุณแม่ทานน้ำตาลมาเกินความต้องการของร่างกายก็จะถูกเก็บสะสมในรูปของไขมันและทำให้รูปร่างของคุณอ้วนขึ้นได้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะคุณแม่ทั้งหลาย ทราบกันแล้วหรือยังว่าการทานน้ำตาล ขนมหวานต่างๆ รวมถึงบรรดาเครื่องดื่มนั้น เราควรทานต่อวันเท่าไรดีจึงจะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพราะหากเราใส่ใจเรื่องอาหารการกินอย่างเหมาะสมก็จะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงทั้งแม่และลูกอีกทั้งหลังคลอดคุณแม่จะได้มีรูปร่างสวยเพรียวไม่อ้วนยังไงล่ะ