เมตาบอลิก ซินโดรม อ้วนลงพุง โรคร้ายที่ไม่ควรมองข้าม
เมตาบอลิก ซินโดรม อาการป่วยที่เกิดจากไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมาะสม เช่น ไม่ออกกำลังกาย ใช้ชีวิตเฉื่อยชาจนมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นี่คือสาเหตุที่จะนำไปสู่ภาวะเมตาบอลิก ซินโดรมได้
โรคนี้จะพบได้มากกับคนที่มีน้ำหนักตัวในขั้นอ้วนถึง 60% แต่สำหรับคนที่มีน้ำหนักตัวเพิ่มอยู่เรื่อยๆ ประมาณปีละ 2.5 กิโลกรัม หรืออาจจะมากกว่าจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเมตาบอลิก ซินโดรม มากถึง 45% นอกจากความอ้วนจะเป็นสาเหตุของการเกิดโรคแล้ว ยังมีปัจจัยอย่างอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ การเข้าสู่วัยทอง กินคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป ใช้ชีวิตเฉื่อยชา เป็นต้น นอกจากนี้หากคุณเข้าข่ายปัจจัยเสี่ยงทั้ง 5 ข้อนี้ คุณก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้สูงเช่นกัน
1.ผู้ชายที่มีรอบเอวมากกว่า 40 นิ้ว ผู้หญิงมากกว่า 35 นิ้ว
2.ระดับไตรกลีเซอไรด์มากกว่าหรือเท่ากับ 150 gm/DL
3.ระดับคอเรตเตอรอล "ดี" หรือ HDL
- ผู้ชายจะน้อยกว่า 40 gm/dL
- ผู้หญิงน้อยกว่า 50 gm/dL
4.ความดันโลหิตมากกว่าหรืออาจเท่ากับ 130/85 mmHg
5.ระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่า 100 mg/DL
เคล็ดลับป้องกันโรคเมตาบอลิก ซินโดรม
เมื่อคุณเริ่มรู้ตัวแล้วว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเมตาบอลิก อย่าเพิ่งตกใจนะคะ แต่คุณต้องรีบเปลี่ยนไลฟ์สไตล์โดยด่วนทันที ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายจะช่วยทำให้น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม แต่คุณอาจคิดว่าออกกำลังกายก็มากแล้ว นานพอสมควรแล้วแต่น้ำหนักก็ยังไม่ลด ไม่ต้องกังวลเลยคะ เป้าหมายของคุณคือต้องลดความดันโลหิตและปรับคอเลสเตอรอลในเลือดให้มีปริมาณที่พอดีและรวมทั้งการต่อสู้กับภาวะอินซูลินด้วย การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องไปฟิตเนสหรอก แค่เดินบ่อยๆ ขยับตัวให้มากขึ้นแค่นี้เอง
เลือกกินอาหารที่ดีมีประโยชน์
การทานอาหารที่มีประโยชน์อาจทำให้คุณผอมลงได้ แต่หากคุณต้องทานยาเป็นประจำ เช่น คนที่เป็นเบาหวาน โรคหัวใจ คุณอาจปรึกษาแพทย์ก่อนก็ได้ว่าควรกินอะไรถึงจะดีต่อสุขภาพ แต่โดยทั่วไปแล้วแค่คุณทานผักผลไม้กับโปรตีนไขมันต่ำ สุขภาพของคุณก็จะถือว่าอยู่ในระดับที่โอเคแล้วล่ะค่ะ ที่สำคัญคุณควรงดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย
เมตาบอลิก ซินโดรม เป็นโรคที่เกิดจากไลฟ์สไตล์ของตัวคุณเอง ดังนั้น คนที่จะช่วยคุณป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้ได้คือ ตัวคุณเอง เพราะฉะนั้นแล้ว มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของตัวเองเสียใหม่ เพื่อสุขภาพที่ดีแข็งแรงกันเถอะ
