ข้อควรรู้ก่อนเลือก "สี" ธีมงานแต่งงาน ให้ถูกกาลเทศะแบบไม่มีพลาด !

ธีมงานแต่งงานเป็นสิ่งที่คู่บ่าวสาวควรตัดสินใจพิจารณาร่วมกัน และแน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่ควรเลือกเป็นอันดับแรกๆ ในการวางแผนคือการเลือก "สี" ประจำงานแต่งงานว่าจะให้ออกมาเป็นแบบไหน เพื่อจะช่วยให้แขกเข้าใจรูปลักษณ์ของงานได้ดี สามารถเลือกเสื้อผ้าสวมใส่ได้เหมาะสม และยังรวมไปถึงการเลือกของตกแต่ง

การออกแบบดีไซน์ส่วนประกอบต่างๆ ของงานให้เข้ากับโทนสีด้วย แต่กระนั้นก่อนเลือกสี ก็ต้องย้อนกลับไปดูหลายสิ่งที่ควรพิจารณาก่อน โดยมีข้อควรรู้ดังต่อไปนี้ค่ะ

การเลือกสีให้เหมาะสมกับฤดูกาลและวันสำคัญ

ฤดูกาลในที่นี้ก็คือว่า คู่บ่าวสาวเลือกฤกษ์ยามแต่งงานในช่วงฤดูร้อน ฝน หรือหนาว หรือช่วงไหนที่จะเหมาะสมกับธีมงานมากที่สุด นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเดือนที่มีวันสำคัญเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่นวันปีใหม่ไทย วันปีใหม่สากล หรือวันวาเลนไทน์ ที่คาบเกี่ยวใกล้เคียงกันในเดือนนั้น ลองเลือกสีที่เหมาะสมมาเป็นตัวช่วยพิจารณาธีมงานที่จะทำให้ดูน่าสนใจไม่ตกเทรนด์

ดูความเหมาะสมของสถานที่จัดงาน

สถานที่จัดงานมีความสำคัญมากๆ สำหรับการเลือกสีธีมงานแต่งงาน ซึ่งหลายคนอาจจะแอบสงสัยว่าสถานที่แต่งงานมีผลกับการเลือกธีมด้วยอย่างนั้นหรือ ขอบอกได้เลยว่าเป็นสิ่งที่มีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันชนิดที่ต้องทำให้ลงตัวเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสถานที่กลางแจ้ง ในห้องโรงแรมหรู หรือจะเป็นกลางป่าธรรมชาติเขียวขจี สถานที่เหล่านี้ก็จะต้องเลือกธีมให้เข้ากัน จะได้ดูโดดเด่นและเข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ

ตามเทรนด์สีความทันสมัยเอาไว้บ้าง

เพื่อไม่ให้เป็นงานแต่งงานที่เลือกใช้สีแบบตกเทรนด์หรือดูเก่าไปแล้ว ซึ่งมันจะทำให้กลายเป็นงานแต่งงานที่น่าเบื่อ ดูไม่สดใส ซ้ำซากจำเจ แขกที่มางานก็คงคิดกันแค่ว่า ธีมสีนี้อีกแล้วหรอ... ดังนั้นเพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้กับตัวเองของทั้งสองฝ่าย ลองใช้เวลาหาข้อมูลเทรนด์สีที่นิยมในปีนั้นๆ หรือในช่วงเวลานั้นว่าสีไหนที่กำลังมาแรง แล้วแต่งแต้มให้งานแต่งงานกลายเป็นแฟชั่นที่มีเสน่ห์น่าประทับใจกันไปเลย

การวางแผนธีมงานแต่งงาน โทนสีจึงกลายเป็นหนึ่งในมิติของการสร้างสรรค์ที่จะช่วยให้งานแต่งงานออกมาในทิศทางที่เหมาะสม ความสมดุลที่สัมพันธ์กันระหว่างสี สถานที่ และยุคสมัย จะช่วยให้การจัดงานเป็นไปอย่างราบรื่น ดูโดดเด่นสวยงามจนเป็นงานที่น่าประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิตของคู่บ่าวสาวและเหล่าแขกรับเชิญที่เข้ามาเป็นสักขีพยานในพิธีอีกด้วยค่ะ

ขอบคุณภาพประกอบจาก : istock, pixabay.com