เคล็ด(ไม่)ลับควบคุมน้ำหนักสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
คุณแม่ตั้งครรภ์หลายคนอาจจะกังวลเรื่องน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมาเยอะ แต่จะไม่ให้กินอาหารบำรุงสุขภาพเพื่อเสริมความแข็งแรงให้ทารกด้วยก็กระไรอยู่ เพราะยิ่งตั้งครรภ์ยิ่งต้องเสริมบำรุงครรภ์เป็นพิเศษ แต่อาหารบางชนิดก็ย่อมทำให้เราน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ได้เหมือนกัน ดังนั้น เราจะต้องเลือกกินแต่อาหารที่มีประโยชน์เท่านั้น
อย่างไรก็ดี วันนี้เราจะมาชวนคุณแม่ตั้งครรภ์ทั้งหลาย มาใส่ใจดูแลควบคุมน้ำหนักยามตั้งครรภ์ไปพร้อมๆ กันค่ะ โดยคุมให้อยู่ตามเกณฑ์แบบพอดีๆ เพียงเท่านี้ก็หมดห่วงเรื่องน้ำหนักส่วนเกินหลังคลอดที่ลดได้ยากแน่นอน
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://paleobarbie.com/
น้ำหนักตามเกณฑ์มาตรฐานของคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องเท่าไรจึงจะพอดี?
- ไตรมาสที่ 1 น้ำหนักตัวควรเพิ่มประมาณ 1 กิโลกรัม
- ไตรมาสที่ 2 น้ำหนักตัวควรเพิ่มประมาณ 4-5 กิโลกรัม
- ไตรมาสที่ 3 ควรเพิ่มประมาณ 5-6 กิโลกรัม
โดยสรุปแล้ว ตลอดช่วงเวลาแห่งการตั้งครรภ์ คุณแม่ควรมีน้ำหนักตัวเพิ่มทั้งสิ้นประมาณ 10 – 12 กิโลกรัมนั่นเอง แต่หากคุณแม่มีน้ำหนักตัวมากเกินเกณฑ์ที่กำหนด โดยตลอดการตั้งครรภ์น้ำหนักตัวเพิ่มอยู่ที่ 20 กิโลกรัมขึ้นไปก็ย่อมเสี่ยงกับการมีระดับน้ำตาลในเลือดหรือเกิดโรคความดันโลหิตสูง จนนำไปสู่ภาวะครรภ์เป็นพิษได้ด้วย ขณะเดียวกัน หากน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นช้า มีน้ำหนักตัวน้อยหรือหากตั้งครรภ์ได้ 5 – 6 เดือนแล้ว แต่น้ำหนักตัวยังไม่ขึ้นเท่าไรนัก แสดงว่าทารกในครรภ์มีภาวะการเจริญเติบโตช้าและอาจจะพิการตั้งแต่กำเนิดได้
เคล็ดลับควบคุมน้ำหนักสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
1.แบ่งกินเป็นมื้อย่อยเล็กๆ เน้นแบ่งอาหารออกเป็นมื้อย่อยเล็กๆ ประมาณ 4 – 6 มื้อต่อวัน แต่คัดสรรเฉพาะวัตถุดิบอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มน้ำอัดลม กาแฟ แอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
2.กินธัญพืชเป็นของว่าง ของว่างระหว่างวันแนะนำอาหารจำพวกถั่วชนิดต่างๆ ข้าวโอ๊ตและเมล็ดทานตะวัน เพราะอาหารเหล่านี้เป็นแหล่งของโปรตีน วิตามินและไฟเบอร์ที่ดีต่อสุขภาพ
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.momjunction.com/
3.ออกกำลังกายเบาๆ เป็นประจำ แนะนำให้หมั่นออกกำลังกายอย่างเบาๆ เป็นประจำ เช่น เดินช้าๆ ในสวนสาธารณะหรือรอบๆ บริเวณบ้านที่มีพื้นที่กว้างๆ เล่นโยคะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือออกกำลังกายในน้ำ การออกกำลังกายตอนตั้งครรภ์นับว่าสำคัญเช่นกัน เพราะนอกจากจะเสริมความแข็งแรงให้ร่างกายแล้ว ยังดีต่อระบบย่อยอาหารและดีต่ออาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ตลอดจนช่วยเรื่องการควบคุมน้ำหนักตัวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์คนไหนที่กำลังตั้งครรภ์เจ้าตัวน้อยอยู่ หากคุณกังวลกับน้ำหนักตัวที่อาจพุ่งสูงและทำให้ลดน้ำหนักหลังคลอดได้ยาก ลองทำตามคำแนะนำนี้ดูสิคะ รับรองว่าคุณจะต้องไม่เป็นแม่หมูอ้วนฉุหลังคลอดแน่นอน