รู้จักกับอาการท้องอืดกันเถอะ

หลายๆ คนอาจจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับอาการท้องอืด เพราะคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็เป็นกัน และอาการก็จะหายไปเองโดยไม่ต้องใช้ยารักษา แต่คุณรู้หรือไม่ว่าอาการท้องอืดที่เป็นบ่อยๆ นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคอย่างอื่นตามมาได้ ถ้าหากปล่อยให้ตัวเองท้องอืดอยู่เป็นประจำหรือแทบทุกวันจะทำให้สุขภาพเริ่มเสื่อมโทรม เจ็บป่วย และเกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่ายขึ้นด้วย วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับอาการท้องอืดให้มากขึ้นกันดีกว่าค่ะ

อาการท้องอืดเป็นอย่างไร เกิดขึ้นตอนไหน
อาการท้องอืดนั้นจะเป็นเมื่อเวลาที่คุณทานอาหารลงไปแล้ว อาหารนั้นไม่ย่อยหรือย่อยได้ช้า คุณจะรู้สึกว่าแน่นท้อง อึดอัด ไม่สบายท้อง มีลมเรอออกมาทางปาก ถ้าอาหารหนักก็จะมีอาหารปวดท้อง จุกเสียด ร่วมด้วย ส่วนใหญ่แล้วผู้สูงอายุจะมีอาการมากกว่าวัยหนุ่มสาวเพราะระบบย่อยอาหารนั้นได้เสื่อมโทรมลงไปตามอายุ และยิ่งตอนอายุน้อยๆ กินมากๆ ด้วยแล้วละก็ พออายุมากทานไม่ได้เหมือนเก่าก็จะมีอาการท้องอืดขึ้นมาได้ค่ะ ผู้ที่ป่วย คนที่เครียด มีเรื่องเศร้าใจ ทุกข์ใจ กินอาหารไม่ค่อยได้ อาหารไม่ย่อย ก็ทำให้เกิดอาการท้องอืดได้เหมือนกันนะคะ ส่วนเด็กน้อย วัยรุ่น หรือคนหนุ่มคนสาว ก็อาจมีอาการท้องอืดได้บ้างเป็นครั้งคราวค่ะ

พฤติกรรที่ควรหลีกเลี่ยง
การทานอาหารคำน้ำคำก็ทำให้ท้องอืดได้เหมือนกันนะคะ และควรทานผลไม้หลังอาหารประมาณ 2 ชั่วโมงหรือให้ทานในขณะท้องว่าง แต่ถ้าทานหลังอาหารเลยจะทำให้ท้องอืดค่ะ การดื่มน้ำอัดลม เพราะน้ำอัดลมนี้เป็นตัวที่ทำให้ระบบย่อยไม่ดีต้องหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง นอกจากจะทำให้ท้องอืดแล้วยังทำให้สุขภาพเสียอีกด้วยค่ะ

สมุนไพรไทยที่ช่วยแก้อาการท้องอืด
สมุนไพรที่ช่วยได้นั้น ได้แก่ ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอม กระเทียม พริกไทย ขมิ้นชัน ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้จะเป็นตัวที่ช่วยป้องกันไม่ให้ท้องอืดได้ค่ะ มักจะมีอยู่ในส่วนผสมของเครื่องแกงอาหารแบบไทยๆ ของบ้านเรานั่นเองค่ะ ส่วนวิธีแก้ไขอาการท้องอืดแบบเฉพาะหน้าหรือในกรณีที่มีเวลาจำกัดก็คือ การดื่มน้ำขิงค่ะ ให้คุณดื่มครั้งละ 1 แก้ว เมื่อมีอาการ จากนั้นก็จิบบ่อยๆ จนกว่าอาการจะหายแล้วให้หยุดทานได้ หรือจะทำเป็นน้ำขิงปั่นคั้นแยกกาก เหมาะสำหรับท่านที่นิยมทำน้ำผลไม้ดื่ม เช่น น้ำแอปเปิ้ล น้ำฝรั่ง น้ำแครอท ก็ให้ผสมขิงลงไปด้วยเล็กน้อย ดื่มวันละครั้งก็สามารถช่วยปรับระบบย่อยให้เป็นปกติได้แล้วละค่ะ

อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า สมุนไพร หรือยา ที่ช่วยในการขับลม แก้ท้องอืดนั้น มักจะเป็นตัวยาที่มีฤทธิ์ร้อน เมื่อกินต่อเนื่องไปนานๆ แล้วอาจทำให้เกิดร้อนในได้ ซึ่งจะมีอาการแตกต่างกันไป เช่น ร้อนตัว ปากคอแห้ง คัดจมูก เป็นริดสีดวงทวาร ให้คอยสังเกตอาการที่ผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นและหยุดยาเมื่อมีอาการดังกล่าว เมื่อหยุดยาแล้วอาการต่างๆนั้นจะค่อยๆหายไปเอง ไม่ต้องเป็นกังวลแต่อย่างใด สรุปแล้ว ยาทุกชนิดที่ใช้กินแก้ท้องอืด เมื่อหายท้องอืดแล้ว ต้องหยุดยานั้นเพื่อป้องกันผลข้างเคียงหรืออาการร้อนในที่อาจจะเกิดขึ้นค่ะ