สารเร่งผิวขาว แฟชั่นฮิตของสาวๆ ที่อาจไม่ปลอดภัย

เมื่อความขาวกลายเป็นเทรนด์ของวัยรุ่นในยุคปัจจุบันกันอย่างบ้าคลั่ง จนทำให้ผู้คนที่รักความขาวทั้งหลายหันหน้ามาใช้เครื่องมือบำรุงผิวต่างๆ กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ทำให้ความขาวกลายเป็นสีผิวที่โดดเด่นและทันสมัยที่สุดในยุคนี้ นอกจากนั้นแล้วโฆษณาเครื่องสำอางที่มีส่วนประกอบของสารช่วยให้ผิวขาวประเภทไวเทนนิ่ง ที่ช่วยเร่งผิวของเราให้ขาวขึ้นได้อย่างรวดเร็วเพียงระยะเวลาไม่กี่วัน กลายเป็นภาพชวนเชื่อที่ดึงดูดให้ผู้คนซื้อหามาใช้กันโดยไม่ได้คำนึงถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตนเองเลยแม้แต่นิดเดียว

นอกจากเครื่องสำอางประทินผิวภายนอกแล้ว ยังมีการผลิตยาเร่งขาวประเภทกินออกมาด้วย ซึ่งก็แบ่งออกเป็นทั้งแบบที่ผ่าน อย. รับรอง และที่ไม่ผ่าน อย. ก็มี อีกทั้งยังมีสารเร่งขาวแบบฉีดที่เรารู้จักกันดีในชื่อว่ากลูต้าไธโอน สารตัวฮิตติดลมบนของสถานเสริมความงามต่างๆ และด้วยความไม่รู้ของผู้รับบริการ รวมไปถึงตัวของแหล่งจำหน่ายเองก็อาจจะมีบ้าง ที่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว สารเหล่านี้ที่ใช้ในการเร่งขาวทุกชนิด ไม่เคยมีการลงทะเบียนผ่าน อย. เลยแม้แต่ชิ้นเดียว หรือเรียกได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ปลอมกันทั้งสิ้น เนื่องมาจากทาง อย. ไม่เคยมีการอนุมัติให้ใช้สารเหล่านี้ในประเทศไทย อีกทั้งยังมีการเข้ากวาดล้างผลิตภัณฑ์เหล่านี้ให้หมดไปจากสังคมอีกด้วย

ซึ่งหากผู้ใช้ลองพิจารณาให้ดีแล้ว จะพบว่าสารกลูต้าไธโอนนั้นไม่ใช่สารเร่งขาว แต่เป็นยาที่ใช้ในการรักษาตับ ช่วยให้ตับสามารถทำงานในการฟอกพิษออกจากร่างกายได้มากขึ้น ส่วนในต่างประเทศก็มีการใช้กลูต้าไธโอนในการรักษาผู้ป่วยโรงมะเร็งต่อมลูกหมาก และใช้ในความควบคุมของแพทย์เท่านั้น ส่วนครีมที่ใช้ทาแล้วหน้าขาว มักจะได้รับความนิยมในผู้หญิงโรงงาน เนื่องจากมีราคาถูก และไม่มีความรู้มากพอที่จะพิจารณาถึงอันตรายจากสารที่ผสมอยู่ในตัวครีม ซึ่งครีมเหล่านี้มักจะมีส่วนผสมของปรอท กรดอาเซลิก กรดวิตามินเอ และไฮโดรควิโนน ที่จะส่งผลให้ผิวหนังของเราเกิดการอักเสบ แพ้และกัดสีผิวของเราจนขาวด่างอย่างน่ากลัว

อันตรายที่เกิดขึ้นเหล่านี้มาจากกระแสค่านิยมผิดๆ ของเราเองกันทั้งสิ้น ที่เชื่อว่าความขาวจะทำให้เราดูสวย และมีเสน่ห์ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคุณค่าในตัวเราไม่ได้มาจากภายนอก แต่เป็นส่วนที่อยู่ภายใน ไม่มีวันเสื่อมสลายไปเช่นเดียวกับความสวยที่วันหนึ่งก็หมดสภาพและเหี่ยวย่นไร้ซึ่งความน่าดูชมในที่สุด

เพราะฉะนั้น นับว่าเป็นค่านิยมที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมควรฮิตเป็นแฟชั่นกันอย่างยิ่งเพราะอาจจะทำให้เด็กสาวรุ่นใหม่หันไปเสพติดกันจนไม่ทันได้พิจารณาว่าจะมีความปลอดภัยกับสารทุกประเภทหรือไม่ เนื่องจากบางครั้งเราอาจจะไม่ทันสังเกตว่าสินค้าไหนหรือสารใดเป็นของปลอมหรือเปล่า แบบนี้ก็น่าคิดก่อนใช้ไม่น้อยทีเดียว