กระเทียม เครื่องปรุงธรรมดาแต่มากคุณค่าต้านโรคร้าย

คุณทราบหรือไม่ว่ากระเทียมเป็นดาวเด่นในการพิชิตโรคร้ายของผู้สูงอายุถึง 4 ชนิด นั่นคือ โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด โรคอัมพาต โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน จากการทดลองของนักวิจัยพิสูจน์ให้เห็นว่า กระเทียมสามารถต้านมะเร็งและต้านเชื้อโรคบางชนิดได้ อีกทั้งยังสามารถเสริมสมรรถภาพของภูมิคุ้มกันสำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่มีภูมิคุ้มกันต่ำเนื่องจากการติดเชื้อ การรับรังสีบำบัดและเคมีบำบัดหรือมีโรคแทรกซ้อนเนื่องจากติดเชื้ออีกด้วย ซึ่งกระเทียมมีสรรพคุณในการส่งเสริมการรักษาที่ดีมาก

จากการทดลองพบว่า ส่วนประกอบที่ใช้ในการต้านมะเร็งและต้านเชื้อโรคกับสารที่พบในกระเทียมนั้นเป็นสารตัวเดียวกัน ดังนั้น กระเทียมจึงสามารถยับยั้งการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อจุลินทรีย์ได้ เนื่องจากน้ำมันจากกระเทียมสามารถกระตุ้นบทบาทในการต้านมะเร็งของเม็ดเลือดขาวและเซลล์ร้ายได้ มีการวิจัยพบว่า เมื่อเติมน้ำมันกระเทียมลงไปในเม็ดเลือดขาวสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการต้านมะเร็งของเม็ดเลือดขาวได้ถึง 100 เท่า และจากการทดลองที่พบว่า น้ำกระเทียม 0.3 เปอร์เซ็นต์ หรือน้ำมันกระเทียมนั้น มีฤทธิ์ยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของเซลล์มะเร็งบริเวณจมูก คอ ปาก มดลูก ตับได้ ซึ่งบทบาทในการต้านมะเร็ง คือ สามารถทำลายองค์ประกอบโครโมโซมของเซลล์มะเร็ง ทั้งทางตรงและทางอ้อม จนทำให้เซลล์มะเร็งตายไปในที่สุด และจากการวิจัยยังพบอีกว่าสารไนโตรซามีน ซึ่งสามารถสังเคราะห์ได้ทั้งในและนอกร่างกายนั้น เป็นสารร้ายแรงที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งทางเดินอาหาร แต่กระเทียมสามารถยับยั้งโดยตรงต่อการสังเคราะห์เคมีของสารไนโตรซามีนจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งเป็นผลดีต่อการป้องกันและรักษามะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งทางเดินอาหารอีกทั้งยังสามารถยับยั้งบทบาทในการกระตุ้นการสังเคราะห์ทางเคมีของสารไนโตรซามีน เป็นต้น เมื่อนำกระเทียมมาใช้ทาภายนอก ยังสามารถรักษามะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย กระเทียมสามารถต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด ลดระดับความเข้มข้นของเลือด ลดไขมันในเลือด และโรคเกี่ยวกับการอุดตันของหลอดเลือดในผู้สูงอายุ กระเทียมสามารถเพิ่มสมรรถภาพภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น ตลอดจนต้านการเปลี่ยนแปลงของเซลล์มะเร็ง ต้านเชื้อโรค ต้านเนื้องอก เสริมสมรรถภาพในการต่อต้านโรคภัยไข้เจ็บของผู้สูงอายุให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กระเทียมยังมีฤทธิ์ในการต้านสารอนุมูลอิสระ และมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมองค์ประกอบของการป้องกันโรคไข้เจ้บภายในร่างกายของผู้สูงอายุ สามารถลดความเสี่ยงจากการคุกคามของเปอร์ออกไซด์ในการทำลายเยื้อหุ้มเซลล์ให้น้อยลงอีกด้วย

ในการรับประทานกระเทียม โดยทั่วไปให้รับประทานครั้งละ 5-10 กรัม ด้วยการนำกระเทียมสดปรุงกับอาหารแล้วรับประทาน แต่เนื่องจากกระเทียมมักจะทำลายน้ำหล่อเลี้ยงธาตุหยิน ดังนั้น ผู้ป่วยที่ธาตุหยินอ่อน มีความร้อนภายในสูง หรือเป็นโรคตาแดง ควรใช้ประโยชน์จากกระเทียมด้วยความระมัดระวัง