หลอดเลือดสมองในเด็กแรกเกิด โรคร้ายที่พ่อแม่ควรระวัง!
โรคหลอดเลือดสมองในเด็กแรกเกิด เป็นโรคที่พบได้มากในเด็กช่วงขวบปีแรก และมักจะเกิดกับเด็กผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ซึ่งโรคนี้หากเป็นแล้วไม่รีบทำการรักษาอย่างเร่งด่วน ก็จะทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตหรือเกิดความพิการทางสมองได้เลยทีเดียว ว่าแต่โรคนี้เกิดจากสาเหตุใดและมีอาการอย่างไร ในบทความนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกกับโรคหลอดเลือดสมองในเด็กแรกเกิดกัน
สาเหตุของโรคหลอดเลือดสมอง
สาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองในเด็กแรกเกิด ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากการผิดปกติตั้งแต่กำเนิดหรือการติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง รวมถึงภาวะโรคหัวใจและโรคธาลัสซีเมียด้วย ซึ่งพ่อแม่ควรให้การสังเกตลูกน้อยอย่างใกล้ชิด เพราะอาการของโรคนี้อาจแสดงออกมาตั้งแต่วันแรกที่เขาคลอดหรืออาจแสดงออกมาในช่วงอายุ 6-9 เดือนก็ได้
อาการของโรคหลอดเลือดสมอง
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกน้อยกำลังเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมอง คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตุได้จากอาการดังต่อไปนี้
1. มีอาการปวดศีรษะอย่างเฉียบพลันและมีอาการรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยสังเกตได้จากลูกน้อยที่ร้องงอแงอย่างหนัก และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดร้องง่ายๆ
2. ปากเบี้ยว มักจะเห็นได้ชัดในเด็กที่มีอาการรุนแรง ซึ่งมักจะเกิดขึ้นพร้อมกับอาการอ่อนแรงบริเวณกล้ามเนื้อใบหน้า และแขนขานั่นเอง
3. พูดหรือกลืนลำบาก โดยสังเกตได้จากการที่ลูกไม่ยอมกินข้าวหรือดื่มนมเลย
4. ชักหรือหมดสติ ซึ่งเป็นอาการที่รุนแรงมาก ควรรีบพาลูกน้อยส่งโรงพยาบาลโดยด่วน
แนวทางการรักษา
สำหรับแนวทางในการรักษานั้น แพทย์จะพิจารณา 3 วิธีด้วยกัน คือ
1. รักษาโดยการใช้ยา
การรักษาโดยการใช้ยา จะใช้กับเด็กที่มีอาการไม่รุนแรงมากนัก ซึ่งตัวยาจะช่วยละลายลิ่มเลือดและต้านการแข็งตัวของเลือด ทำให้เส้นเลือดในสมองไม่ตีบตัน และป้องกันอาการชักหมดสติได้นั่นเอง
2. รักษาโดยการผ่าตัด
การรักษาโดยการผ่าตัด จะใช้กับเด็กที่มีอาการรุนแรง ถึงขั้นชักหมดสติ หรือมีก้ออนเลือดในสมองใหญ่มาก ไม่สามารถสลายได้ด้วยการใช้ยา แต่ทั้งนี้ก็มีความเสี่ยงมากเช่นกัน
3. รักษาโดยการทำกายภาพบำบัด
การทำกายภาพบำบัด จะใช้กับเด็กที่มีอาการไม่รุนแรงมากนัก และมีโอกาสกลับมาหายเป็นปกติได้อีก แต่ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยนั่นเอง
โรคหลอดเลือดสมองในเด็ก เป็นโรคที่พ่อแม่ควรเฝ้าระวังเป็นอย่างมาก เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เสมอ ซึ่งคุณสามารถป้องกันได้ด้วยการสังเกตุอาการผิดปกติของลูกน้อยเป็นประจำและรีบพาไปพบแพทย์ทันที เพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัวน้อย