"กากกาแฟขัดผิว" เนรมิตผิวขาวใส สวยปิ๊งได้จริงหรือ ?
สูตรธรรมชาติจากกากกาแฟขัดผิวที่เราต่างเชื่อกันว่านี่คือประโยชน์จากของเหลือใช้จากธรรมชาติอีกทอดหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อการดูแลผิวสาวให้สวยใสได้ เชื่อว่าสรรพคุณของกากกาแฟที่ผ่านการสกัดเอาน้ำกาแฟไปดื่มแล้ว เป็นแค่กากเหลือทิ้งเหล่านี้ สามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมขัดผิว
ไม่ว่าจะขัดแบบเพรียวๆ หรือจะขัดด้วยการผสมกับสมุนไพรตัวอื่นร่วมด้วย โดยคุณสมบัติที่ว่ากันเอาไว้คือช่วยให้ผิวขาว เรียบเนียน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ แล้วแบบนี้กากกาแฟทำได้อย่างไร? มันทำให้ผิวขาวใสได้จริงหรือไม่? ลองมาหาคำตอบ ก่อนจะโดนเหล่าผู้ผลิตหัวใสทำผลิตภัณฑ์ออกมาวางจำหน่ายให้เสียเงินเล่นกันค่ะ
ความเชื่อของกากกาแฟกับการดูแลผิว
ตามความเชื่อเรื่องสวยๆ งามๆ ที่สาวๆ ให้ความสนใจจากการนำเอากากกาแฟมาขัดผิว ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยทำให้ผิวขาวตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ แน่นอนว่าเมื่อได้ทดลองขัด นวดกากกาแฟลงไปบนผิวแล้วทิ้งไว้ ภายหลังจากการล้างทำความสะอาด พบว่าผิวเรียบเนียน ดูสว่างใสมากกว่าตอนก่อนทำการขัดผิว แถมผิวบริเวณนั้นยังดูนุ่มนิ่ม น่าสัมผัสเหมือนผิวเด็ก จึงทำให้ได้รับความนิยมกันมาแบบปากต่อปากจนถึงทุกวันนี้เลยล่ะค่ะ
กากกาแฟขัดผิว ช่วยให้ขาวใสได้จริงหรือหลอก ?
กากกาแฟขัดผิว ไม่ได้ช่วยให้ผิวขาวได้จริง ! ความเชื่อทั้งหมดเป็นสิ่งที่เราต่างอุปาทานกันไปเองว่า ในกากกาแฟจะมีสารต้านอนุมูลอิสระเข้าไปกำจัดเชื้อโรคที่ผิว ซึมซาบเข้าไปบำรุงผิวด้านใน อะไรทั้งหลายแหล่เหล่านี้ เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก เพราะแม้จะมีสารต้านอนุมูลอิสระจริง ประสิทธิภาพในการทำงานกับผิวที่จะส่งผ่านจากภายนอกเข้าสู่ภายในผ่านรูขุมขนของเรานั้นเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งยังไม่ได้สามารถทำหน้าที่ดูดซับสิ่งสกปรกได้จริง ไม่มีอะไรหลุดออกมาจากผิวของเราเลย เชื้อโรคก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม
ขอบคุณภาพประกอบจาก : pixabay.com
แต่ที่เราสัมผัสได้ว่าผิวเนียนนุ่ม เนื่องจากกากกาแฟมีความหยาบ เมื่อนำไปขัดกับผิวจึงช่วยกำจัดเอาขี้ไคลและเนื้อเยื่อที่ตายบางส่วนให้หลุดลอกออกไปได้ เมื่อล้างทำความสะอาด ผิวที่ขรุขระก็เลยดูเรียบเนียน เหมือนการเอากระดาษทรายมาขัดไม้เสี้ยน
แม้ว่าการใช้กากกาแฟขัดผิวจะไม่ได้ช่วยทำให้ผิวขาวขึ้น แต่ก็มีประโยชน์ทำหน้าที่เสมือนใยบวบ ขัดเซลล์ผิวและขี้ไคลที่เป็นสิ่งสกปรกให้หลุดลอกออกไปได้ โดยไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด หากนั่นคือกากกาแฟจากธรรมชาติที่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อมาเป็นอย่างดีแล้ว