เหตุผลที่ทำให้สาวๆ ท้องผูก รู้แล้วปรับพฤติกรรมใหม่ซะ!
เชื่อว่าสาวๆ หลายคนย่อมมีอาการท้องผูกบ่อยๆ ใครที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่ คงทรมานไม่น้อย ฉะนั้น เรามาดูสาเหตุที่ทำให้ท้องผูกพร้อมกับวิธีแก้และป้องกันไปพร้อมกันเลยนะคะ
สาเหตุที่ทำให้ท้องผูก
ชอบอั้นอุจจาระเป็นประจำ เมื่อเราปวดท้องอยากถ่ายนั่นหมายถึงอุจจาระได้เคลื่อนที่เข้าไปรอในส่วนของบริเวณลำไส้ใหญ่ส่วนปลายแล้ว และจะส่งสัญญาณกระตุ้นให้รู้สึกเกิดอาการปวดขับถ่าย เพื่อที่เราจะต้องรีบถ่ายออกไป แต่หากเราอั้นเอาไว้บ่อยๆ ก็จะทำให้ระบบการขับถ่ายมีปัญหา น้ำในอุจจาระจะถูกดูดย้อนกลับขึ้นด้านบน อุจจาระก็จะสะสมภายในลำไส้ใหญ่เป็นเวลานาน แถมยังแข็งแห้งและทำให้ขับถ่ายออกมายากขึ้น นี่จึงกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการท้องผูกนั่นเอง
กินอาหารที่มีไฟเบอร์น้อยเกินไป สาวๆ หลายคนไม่ชอบกินผักผลไม้ และหากภายในลำไส้ไม่มีเส้นใยอาหารเลยก็จะทำให้ไม่มีกากอาหารที่จะรอถูกขับออกนั่นเอง ดังนั้น รู้แบบนี้แล้วก็รีบหันมากินกันให้มากขึ้นเถอะนะคะ
ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย ใครที่ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ ชอบนั่งทำงานอยู่แต่กับที่เป็นเวลานานและไม่ชอบออกกำลังกายด้วย ก็จะยิ่งทำให้ลำไส้ไม่ได้ขยับเคลื่อนไหว ลำไส้ก็จะไม่เกิดการบีบตัว ไม่ได้รับการถูกกระตุ้น แต่การออกกำลังกายถือเป็นการกระตุ้นระบบย่อยอาหารและระบบการทำงานของลำไส้ในตัวด้วย ดังนั้น จึงสามารถช่วยเร่งการเคลื่อนตัวของอุจจาระให้เข้าไปรอขับออกยังลำไส้ใหญ่ส่วนปลายได้ในที่สุด เพราะฉะนั้นแล้ว ใครที่ไม่ชอบออกกำลังกายหรือไม่ค่อยเคลื่อนไหวตัวเองบ่อยๆ รีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนี้กันโดยด่วน
เครียดมากเกินไป ไม่น่าเชื่อเลยใช่มั้ยละคะว่าความเครียดนั้นจะมีผลทำให้ระบบขับถ่ายมีปัญหาได้ แท้จริงแล้ว การที่เราเครียดจะทำให้รู้สึกเบื่ออาหารและเมื่อกินอาหารน้อยลงหรือกินไฟเบอร์ไม่เพียงพอ มันก็จะส่งผลกระทบไปยังระบบขับถ่ายด้วยนั่นเอง
ดื่มน้ำไม่เพียงพอ การที่เราดื่มน้ำน้อยเกินไปจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ และส่งผลมายังระบบการขับถ่ายแน่นอน เพราะน้ำจะช่วยให้อุจจาระนิ่มหรืออ่อนตัวลง สามารถขับเคลื่อนตัวออกจากลำไส้ง่ายขึ้นและทำให้เราขับถ่ายง่าย โดยไร้ปัญหาท้องผูกตามมายังไงล่ะ
วิธีป้องกันและรักษาอาการท้องผูก
1.หากมีอาการท้องผูกอย่างหนัก ในเบื้องต้นคุณสามารถกินยาระบายเพื่อช่วยให้การขับถ่ายคล่องขึ้นก่อนได้
2.ควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยดื่มให้ได้วันละ 8 – 10 แก้วหรือจะหันมาทำน้ำหมักผลไม้ดื่มก็ได้นะคะ วิธีนี้ถือเป็นการดีท็อกซ์ที่ได้ผลดีสุดๆ และยังบำรุงร่างกายให้แข็งแรงอีกด้วย
3.เน้นกินอาหารที่มีเส้นใยอาหารมาก ซึ่งได้แก่ ผักและผลไม้ โดยกินให้ได้สม่ำเสมอทุกวัน เพราะนอกจากจะช่วยแก้และป้องกันปัญหาท้องผูกได้แล้ว เส้นใยจากผักผลไม้ยังช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ด้วย
4.หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพราะจะได้ช่วยกระตุ้นให้เกิดการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ ทำให้การขับถ่ายสะดวกมากขึ้น
5.ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา เมื่อเราฝึกจนติดเป็นนิสัยในเวลาเดียวกันทุกเช้า ร่างกายก็จะเกิดการปรับตัวและเมื่อถึงเวลาขับถ่ายก็จะถ่ายออกมาง่ายขึ้น ที่สำคัญห้ามอั้นอุจจาระอีกต่อไปเป็นอันขาด
ทราบแบบนี้แล้วจากนี้ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันใหม่นะคะ แล้วปัญหาท้องผูกก็จะหมดไป ไม่นำความทรมานมาสู่คุณอีกได้อย่างแน่นอน
