สาวๆ ต้องรู้! ใส่ผ้าอนามัยอย่างไรไม่ทำลายสุขภาพจุดซ่อนเร้น
การมีสุขภาพที่ดีของสาวๆ บอกเลยว่ามีหลายส่วนอย่างมากที่จะต้องดูแลใส่ใจ โดยเฉพาะการใส่ผ้าอนามัยในช่วงมีรอบเดือน สาวๆ ควรรู้วิธีการใช้อย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพช่องคลอด ดังรายละเอียดที่เรานำมาฝากตามนี้
จะเกิดอะไรขึ้น?! หากใส่ผ้าอนามัยเป็นเวลานานโดยไม่ได้เปลี่ยน
อาการคัน ช่วงมีประจำเดือน เลือดประจำเดือนที่ไหลออกมาซึมเปื้อนบนผ้าอนามัย มักก่อให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียอยู่แล้ว และหากคุณไม่ได้เปลี่ยนผ้าอนามัยชิ้นใหม่ จำนวนของแบคทีเรียก็จะยิ่งสะสมไว้มากขึ้น ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวตรงอวัยวะเพศ ในสาวๆ บางรายอาจถึงขั้นมีผื่นแดงขึ้นที่จุดซ่อนเร้นร่วมด้วย
มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ เชื้อแบคทีเรียจากผ้าอนามัยที่ซึมเปื้อนเลือดอยู่นั้น เมื่อสัมผัสกับอากาศก็จะก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นอันไม่พึงประสงค์ จนทำให้สาวๆ หมดความมั่นใจขึ้นได้นั่นเอง
เสี่ยงเป็นเชื้อราในช่องคลอด ความชื้นจากผ้าอนามัยเป็นสาเหตุของการเกิดเชื้อรา และเชื้อราเหล่านี้นี่เองค่ะที่จะไหลผ่านเข้าสู่ร่างกายทางช่องคลอด จนก่อให้เกิดปัญหาเชื้อราในช่องคลอดและทำให้เกิดอาการคันภายในตามมา
ติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด เมื่อเชื้อแบคทีเรียผ่านเข้ามายังช่องคลอดภายในแล้วก็จะทำให้ช่องคลอดเกิดการติดเชื้อ นอกจากนี้ เชื้อยังแพร่ลามไปสู่ทางเดินปัสสาวะ ทำให้ระบบทางเดินปัสสาวะติดเชื้อ ส่งผลให้ช่องคลอด กระเพาะปัสสาวะหรือกรวยไตอักเสบขึ้นได้นั่นเอง
ใส่ผ้าอนามัยอย่างไรให้ถูกต้อง หมดกังวลเรื่องปัญหาจุดซ่อนเร้น
ปัญหาสุขภาพช่องคลอดที่สาวๆ ประสบพบเจอกันบ่อยๆ ล้วนมีสาเหตุมาจากการใส่ผ้าอนามัยแบบผิดๆ อยู่เสมอ วันนี้คุณจะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจวิธีใส่ผ้าอนามัยอย่างถูกต้องแล้วล่ะ
1.ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4 ชั่วโมง
สาวๆ ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยอย่างน้อยทุก 3-4 ชั่วโมง หรือหากประจำเดือนมาปริมาณมากก็ควรเปลี่ยนให้เร็วขึ้นหรือถี่กว่านั้น เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
2.ใช้ผ้าอนามัยที่เหมาะกับตนเอง
ผู้หญิงเรามีเลือดประจำเดือนไหลออกมามากน้อยแตกต่างกัน ดังนั้น จึงควรเลือกใช้ผ้าอนามัยที่เหมาะกับตัวเอง ไม่ว่าจะรูปแบบหนา บาง ยาวหรือสั้นอย่างไรก็แล้วตาม ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันปัญหาการซึมเปื้อนนั่นเอง
3.หากมีผดผื่นคันควรรีบใส่ใจรักษา
ผ้าอนามัยยังก่อให้เกิดปัญหาผดผื่นคันได้ด้วย และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ได้บ่อยมากเช่นกัน โดยส่วนมากก็มักเกิดจากการแพ้ผ้าอนามัยหรือเกิดขึ้นมาจากการหมักหมมของเชื้อโรค เพราะฉะนั้น หากคุณมีปัญหาผดผื่นขึ้นที่อวัยวะเพศ แนะนำให้รักษาด้วยการทาครีมแอนตี้เซปติกเพื่อช่วยลดผดผื่น และควรเปลี่ยนยี่ห้อผ้าอนามัยใหม่ หรือหากเกิดผดผื่นอันเนื่องจากการหมักหมมของแบคทีเรียก็ควรหมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ จะดีที่สุด
4.ทิ้งผ้าอนามัยอย่างถูกต้อง
หลังจากใช้ผ้าอนามัยแล้ว ควรทิ้งโดยการห่อกระดาษอย่างมิดชิดแล้วใส่ทิ้งลงในถังขยะให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค เพราะผ้าอนามัยที่ผ่านการใช้แล้วล้วนเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นดีนั่นเอง ที่สำคัญห้ามทิ้งลงในชักโครกเด็ดขาดหรือไม่ควรวางทิ้งในถังขยะโดยไม่ได้ม้วนห่อเก็บอย่างมิดชิด เพราะเชื้อโรคและกลิ่นเมื่อสัมผัสกับอากาศก็จะยิ่งแพร่ตัวมากขึ้น นอกจากเป็นที่น่ารังเกียจต่อคนที่พบเห็นแล้ว ยังก่อให้เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยง่ายในกรณีที่มีคนมาสัมผัสหรืออยู่ใกล้กับผ้าอนามัยชิ้นนั้นๆ
5.ควรพกอนามัยติดตัวเสมอ
ไม่ว่าคุณจะมีประจำเดือนหรือไม่ก็ตาม และยิ่งมีประจำเดือนด้วยแล้ว จำเป็นอย่างมากที่จะต้องหมั่นพกผ้าอนามัยไว้เปลี่ยน เพื่อลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียไม่ให้หมักหมมบนผ้าอนามัยนานเกินไปจนเข้าไปทำลายสุขภาพภายในช่องคลอดได้
อยากให้สุขภาพดีทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะสุขภาพภายในสาวๆ อย่างช่องคลอดที่อาจส่งผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ การใส่ผ้าอนามัยอย่างถูกต้องนั้นสำคัญอย่างมาก เพราะหากไม่ใส่ใจในจุดนี้คุณอาจจะเจ็บป่วยโดยไม่รู้ตัวบ่อยๆ ก็เป็นได้