กุมารแพทย์ชี้ โรคภูมิแพ้ในเด็ก ป้องกันได้ด้วยโภชนาการที่ถูกต้องตั้งแต่ช่วงทารก
เด็กไทยเป็นภูมิแพ้มากกว่าเดิมกว่า 3 เท่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ทารกที่มีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัวมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้
การเลี้ยงลูกด้วยนมมารดาในช่วง 6 เดือนแรกช่วยลดการเกิดภูมิแพ้ในเด็ก
ในกรณีที่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ ควรเลือกให้นมผงสูตรพิเศษ สูตร H.A. ที่มีโปรตีนเวย์ 100% มีผลการวิจัยรับรอง และมีบิฟิดัส (จุลินทรีย์สุขภาพ)
กรุงเทพฯ (17 มิ.ย. 53) - บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด จัดการสัมมนาสำหรับสื่อมวลชนหัวข้อ "สืบให้รู้ดูให้แน่ โรคภูมิแพ้ป้องกันได้" เพื่อชี้ให้เห็นถึง ปัญหาภูมิแพ้ในทารกและเด็กที่มีอัตราเพิ่ม มากขึ้นทั่วโลกและในประเทศไทย รวมทั้ง ให้ความรู้แก่มารดาเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภูมิแพ้ แก่ลูก
ทั้งนี้ มีผู้บริหาร บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กุมารแพทย์ชั้นนำของประเทศไทยและพิธีกรชื่อดัง เข้าร่วมคือ มร. แอนดรู สกอรี่ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจโภชนาการทารกประจำประเทศไทยและภาคพื้นอินโดจีน บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด รศ. พญ. จรุจิตร์ งามไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน โรคภูมิแพ้ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ให้ความรู้ พร้อมด้วยคุณซินดี้ - สิริยา เบอร์บริดจ์ พิธีกรและคุณแม่มือใหม่
มร. สกอรี่ ได้ชี้ถึงปัญหาการเกิดภูมิแพ้ในเด็กว่า "ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เด็กไทยเป็นโรคภูมิแพ้ มากกว่าเดิมถึง 3 เท่า ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวลเพราะการเป็นภูมิแพ้ในวัยเด็กจะส่งผลต่อพัฒนาการและ การเติบโตของเด็ก"
รศ. พญ. จรุงจิตร์ ให้ความเห็นว่า การประเมินความเสี่ยงจากประวัติภูมิแพ้ในครอบครัวจะมีส่วนช่วยระบุว่า ทารกมีโอกาสเป็นภูมิแพ้สูงหรือไม่ ซึ่งช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รับมือด้วยการป้องกันภูมิแพ้ของทารกได้แต่เนิ่นๆ และอย่างถูกต้องทันท่วงที การศึกษาพบว่า แม้แต่ทารกที่คุณพ่อคุณแม่ไม่เป็นโรคภูมิแพ้เลย ลูกก็มีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ได้ประมาณ 15%
รศ. พญ. จรุงจิตร์ ชี้แจงต่อไปว่า หากพ่อหรือแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นโรคภูมิแพ้ ลูกที่เกิดมาจะมีโอกาสเป็นภูมิแพ้ได้ 20-40% แต่ถ้าทั้งพ่อและแม่เป็นโรคภูมิแพ้ โอกาสที่ลูกจะเป็นภูมิแพ้จะมีมากถึง 50 - 80%
"สิ่งแวดล้อมที่เป็นตัวการทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ซึ่งพบได้บ่อยที่สุด ได้แก่ อาหาร โดยเฉพาะในเด็กเล็ก อายุต่ำกว่า 1 ขวบ จะมี อาการแพ้นมวัว ซึ่งกำลังเป็นปัญหาในเด็กไทยและถูกมองข้ามไป การแพ้นมวัวสามารถแสดงอาการได้หลายระบบ เช่น ระบบทางเดินหายใจ คล้ายกับโรคแพ้อากาศ หรือ โรคหอบหืด รวมถึง ระบบทางเดินอาหาร และระบบผิวหนัง" รศ. พญ. จรุงจิตร์ กล่าว
รศ.พญ.จรุงจิตร์ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ปัจจุบัน หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้สถานการณ์โรคภูมิแพ้ในเด็กเพิ่มขึ้นอาจมาจากการที่เด็กกินนมแม่น้อยลงโดยเฉพาะในกลุ่มคุณแม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน
"มีงานวิจัยจำนวนมากที่ยืนยันว่า การให้เด็กกินนมแม่อย่างเดียวแม้เพียง 6 เดือนแรก จะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้ในเด็กได้" รศ.พญ.จรุงจิตร์ กล่าว
"ในช่วง 6 เดือนแรก เยื่อบุทางเดินอาหาร ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบน้ำย่อยสารอาหารต่างๆ ของทารกยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นการได้รับโปรตีนแปลกปลอมจากอาหารอื่นในระยะเวลาดังกล่าว ทำให้โปรตีนเหล่านี้ไม่ถูกย่อยสลาย และมีโอกาสเล็ดลอดเข้าไปในร่างกาย ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย"
สำหรับการรับมือกับโรคภูมิแพ้ รศ.พญ.จรุงจิตร์ แนะนำว่า การให้ลูกได้รับนมแม่ซึ่งเป็นไฮโปอัลเลอเจนิค คือไม่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ โดยดื่มนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกจะช่วยลดการสัมผัสกับโปรตีนแปลกปลอมจากนมวัว และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย รวมทั้งทารกจะได้รับสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วน
"แต่ถ้าไม่สามารถให้นมแม่ได้ ควรเลือกให้ นมสูตรพิเศษที่เป็นสูตร "ไฮโปอัลเลอเจนิก" (H.A.) ที่มีโปรตีนเวย์ 100 % ที่ผ่านการย่อยโดยเอ็นไซม์ และความร้อน ทำให้ได้โปรตีนโมเลกุลเล็กลง จึงช่วย ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้ได้ดี โดยเฉพาะในทารกที่มีประวัติเสี่ยงสูง" รศ.พญ.จรุงจิตร์ กล่าว
"มีผลการวิจัยทางการแพทย์ระบุว่า นมผงสูตร H.A. นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้ ยังคงคุณค่าสารอาหาร รวมทั้งรสชาติที่ดีเหมือนกับนมสูตรมาตรฐานทั่วไป"
รศ.พญ.จรุงจิตร์ กล่าวว่า ยังมีผลวิจัยพบว่าบิฟิดัส ซึ่งเป็นจุลินทรีย์สุขภาพ (Probiotic) ซึ่งพบได้ในนมแม่ สามารถช่วยป้องกันการเกิดภูมิแพ้ในทารกได้ โดยจุลินทรีย์สุขภาพช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันชนิดเดียวกับที่พบในนมแม่
มร. สกอรี่กล่าวว่า เนสท์เล่ ได้พัฒนานมสูตร H.A. ที่มีความพิเศษคือมีโปรตีนเวย์ 100 % ที่ผ่านการย่อยบางส่วนเพื่อให้โมเลกุลของโปรตีนมีขนาดเล็กลง และมีผลการวิจัยรับรองว่าช่วยลดการเกิดภูมิแพ้ นอกจากนี้ยังเสริมบิฟิดัส (bifidus BL) ซึ่งเป็นจุลินทรีย์สุขภาพ เพื่อช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและลด ความเสี่ยงของ การเกิดภูมิแพ้ในทารก1-5
สารถึงบรรณาธิการ
อาการภูมิแพ้ในเด็ก
1.โรคภูมิแพ้มักเริ่มปรากฏอาการในช่วงปีแรก
2.เด็กที่แพ้นมวัวจะมีโอกาสแพ้อาหารอื่นๆ ได้สูงขึ้น เช่น ไข่ อาหารทะเล
3.อาการแพ้ที่เกิดขึ้นกับเด็กสามารถแสดงออกได้ 2 ลักษณะ
แสดงออกทันที เช่น เวลาลูกสัมผัสกับสารที่ทำให้แพ้ หลังจากนั้นไม่กี่นาที อาจมีทั้งตุ่มนูนแดงคันขึ้น หรืออาเจียน หรือถ่ายท้อง
แสดงออกแบบค่อยเป็นค่อยไป บางรายจะเกิดอาการขึ้นภายใน 24-48 ชั่วโมง หลังจากได้รับ สิ่งแปลกปลอม หรืออาหารที่แพ้ ซึ่งพ่อแม่ควรจะคอยสังเกตว่าให้ลูกกินอาหารใหม่ที่ลูกไม่เคยกินมาก่อนหรือเปล่าในช่วงเวลาดังกล่าวกับอาการที่เกิดขึ้น
4.การวิจัยพบว่า ถ้าทารกมีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ในครอบครัวและได้รับนมผสมจะมีโอกาสเกิดโรคแพ้โปรตีนนมวัวถึง 20 % ในขวบปีแรก แต่ถ้าได้รับนมแม่อย่างเดียวจะมีโอกาสเกิด เพียง 0.5 -1.5 %2
ผลการศึกษาเกี่ยวกับนมผงสูตรพิเศษ H.A.
จากผลการวิจัย GINI study (German Infant Nutritional Intervention study) ซึ่งเป็นงานวิจัยที่มีทารกเข้าร่วมการศึกษากว่า 2,200 ราย และติดตามเด็กจนถึงอายุ 6 ปี ได้ยืนยันอย่างชัดเจนถึงผลต่อการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ในระยะยาวในเด็กกลุ่มเสี่ยงด้วยวิธีการกินนมสูตรพิเศษ สูตร H.A. ว่าสามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ได้ต่อเนื่องจนถึงอายุ 6 ปี 3
การศึกษาในสหรัฐอเมริกา เอเชียและยุโรป พบว่า เด็กทารกที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคภูมิแพ้ เมื่อได้รับนมผงสูตรดังกล่าว สามารถลดการเกิดโรคภูมิแพ้ได้ถึง 50 % เมื่อเปรียบเทียบกับการให้นมผงดัดแปลงทั่วไปในระหว่าง 5 ปีแรกของชีวิต 4