อย่ามองข้าม! อันตรายที่มาพร้อมไขมันรอบเอว

การมีไขมันรอบเอว อาจทำให้หลายคนมองข้ามถึงปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะปัญหาการมีไขมันรอบเอวอาจทำให้คุณรู้สึกว่าเป็นแค่เรื่องธรรมดาที่อาจไม่ได้มีอะไรร้ายแรงนั่นเอง วันนี้เราได้นำอันตรายที่มาพร้อมกับการมีไขมันรอบเอวมาฝาก เป็นยังไงบ้าง มาดูกันค่ะ

ปอดไม่สามารถทำงานได้เต็มที่

ในส่วนของอันตรายที่มาพร้อมกับการมีไขมันรอบเอว หนึ่งในนั้นก็คือการที่ปอดไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ โดยมีผลการวิจัยค้นพบว่า ผู้ที่อ้วนลงพุงหรือมีไขมันรอบเอวทำให้การทำงานของปอดลดลง เมื่อมีการเปรียบเทียบกับผู้ที่มีสุขภาพดี ไม่มีประวัติการสูบบุหรี่และไม่มีไขมันหน้าท้อง จะเห็นผลได้ว่าผู้ที่มีไขมันรอบเอวมีอัตราการหายใจที่ลดลง เมื่อเกิดขึ้นเป็นเวลานานก็ส่งผลทำให้ทางเดินหายใจหดแคบลง จนก่อให้เกิดโรคปอดเรื้อรังอย่างเช่น โรคหอบหืดนั่นเอง

เสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์

มีผลการศึกษาในปี 2010 ได้ค้นพบว่าการมีขนาดของรอบเอวที่หนามากนั้น จะเสี่ยงต่อภาวะของการเป็นโรคสมองเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์ โดยจากการศึกษาพบว่าผู้ที่อ้วนลงพุงหรือมีไขมันรอบเอวจะทำให้เซลล์สมองมีปริมาณที่น้อยกว่าคนปกติ และนั่นก็จะก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ ซึ่งสาเหตุที่เป็นอย่างนั้นเนื่องจากไขมันจะไปอุดตันในเส้นเลือดที่ไปทำให้เลือดไหลเวียนขึ้นไปเลี้ยงสมองอย่างไม่สะดวกและเป็นปกติ ดังนั้นสมองจึงเกิดภาวะขาดออกซิเจนและทำให้เซลล์ตายนั่นเอง

เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน

ไขมันรอบเอวนั้นเป็นไขมันที่พบในกลุ่มคนที่มีภาวะอ้วนลงพุง ซึ่งไขมันชนิดนี้จะมีการผลิตฮอร์โมนที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกายได้ นอกจากนี้ฮอร์โมนดังกล่าวยังทำให้ตัวรับสัญญาณอินซูลินทำงานที่ผิดปกติไปจากเดิม และนั่นก็หมายถึงอินซูลินซึ่งเป็นตัวที่คอยควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายจะทำงานด้อยลงจนทำให้เสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น

เกิดภาวะคอเลสเตอรอลสูง

ตามหลักความเป็นจริงนั้น ไขมันที่อยู่ในบริเวณขาและก้น เป็นไขมันที่มีการเผาผลาญที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าไขมันที่อยู่ในบริเวณหน้าท้องของคนอ้วนลงพุง โดยสาเหตุที่การเผาผลาญไขมันบริเวณขาและก้นดีกว่าก็เป็นเพราะระดับน้ำตาลไตรกลีเซอไรด์ คอเลสเตอรอล และอินซูลิน ต่ำกว่าไขมันที่เผาผลาญจากบริเวณช่องท้องนอกจากนี้ไขมันในบริเวณช่องท้องยังสามารถเปลี่ยนเป็นกรดไขมันอิสระ ซึ่งมันจะส่งผลทำให้ร่างกายผลิตคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีต่อสุขภาพ หรือที่เรียกว่า LDL ได้ อีกทั้งกรดไขมันอิสระยังทำให้ระดับของไขมันดีหรือคอเลสเตอรอล HDL ลดลงอีกด้วย และไขมันชนิดนี้ยังไม่ส่งผลต่อการทำงานของหลอดเลือด รวมทั้งทำให้เกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงและภาวะหัวใจวายตามมาได้

สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาเรื่องอ้วนลงพุงหรือมีไขมันรอบเอว ควรที่จะหันมาดูแลสุขภาพด้วยการลดน้ำหนักที่ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกาย เช่น การออกกำลังกาย และการรู้จักควบคุมเรื่องอาหารให้ดี เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คุณห่างไกลจากอันตรายที่มาพร้อมกับไขมันรอบเอวได้แล้ว