5 วิธีรับมือ "ลูกแพ้อาหาร" เรื่องง่ายๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ป้องกันได้

5 วิธีรับมือ "ลูกแพ้อาหาร" เรื่องง่ายๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ป้องกันได้

5 วิธีรับมือ "ลูกแพ้อาหาร" เรื่องง่ายๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ป้องกันได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การเลี้ยงลูก มีหลายอย่างซับซ้อนและละเอียดอ่อนอย่างมากที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องให้การดูแลใส่ใจเป็นอย่างดี ไม่เว้นแม้แต่เรื่องอาหารที่เรียกว่าจะต้องพิถีพิถันอย่างมากที่สุด แต่ในกรณีลูกแพ้อาหารจะจัดการรับมืออย่างไร วันนี้ลองมาอ่านกันดู เรามีวิธีรับมือเมื่อลูกแพ้อาหารมาฝากแล้วค่ะ

1.ปรึกษากุมารแพทย์

หากสงสัยว่าเจ้าตัวน้อยมีอาการแพ้อาหาร ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าเป็นชนิดใดก็ตาม แนะนำให้พาเขาไปพบกุมารแพทย์เพื่อรับคำแนะนำดีกว่า เพราะคุณหมอจะให้คำแนะนำที่ดีและเหมาะสม คุณพ่อคุณแม่ก็จะได้ทราบวิธีรับมืออาการแพ้อาหารของลูกได้อย่างถูกต้องด้วย

5 วิธีรับมือ ลูกแพ้อาหาร เรื่องง่ายๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ป้องกันได้
5 วิธีรับมือ ลูกแพ้อาหาร เรื่องง่ายๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ป้องกันได้

2.อธิบายให้ลูกรับรู้และเข้าใจ

วิธีรับมือเรื่องการแพ้อาหารของลูก สิ่งที่สำคัญเหนืออื่นใดก็คือ การบอกให้ลูกเข้าใจว่าเขาแพ้อาหารใดบ้าง หรือให้เขารู้ว่าอาหารชนิดใดที่ไม่ควรกินเข้าไป เพราะไม่เช่นนั้น เขาอาจจะเผลอหยิบไปกินโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะหากลูกของคุณโตมากพอที่จะอ่านหนังสือออกแล้ว ก็ควรบอกให้เขาอ่านรายละเอียดส่วนผสมบนฉลากขนมหรืออาหารนั้นๆ ก่อนกินจะดีกว่า เพราะคุณไม่สามารถเฝ้าดูแลลูกได้ตลอดเวลา การอธิบายให้เขาได้รับรู้และเข้าใจจึงนับเป็นวิธีพื้นฐานที่ควรทำอย่างมากที่สุด

3.ทำอาหารให้ลูกทานเอง

เพราะคุณพ่อคุณแม่จะรู้ดีที่สุดว่าลูกน้อยแพ้อาหารชนิดใดบ้าง ดังนั้น แนะนำให้ทำอาหารให้เขากินเองจะดีกว่าการซื้ออาหารนอกบ้านมาให้เขา คุณจะได้คัดสรรอาหารที่มีประโยชน์เพื่อลูกน้อยได้อย่างเต็มที่ และลูกก็จะอยากกินอาหารฝีมือของคุณอย่างมีความสุขมากกว่าอีกด้วยแน่นอน

5 วิธีรับมือ ลูกแพ้อาหาร เรื่องง่ายๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ป้องกันได้
5 วิธีรับมือ ลูกแพ้อาหาร เรื่องง่ายๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ป้องกันได้

4.ทำข้าวกล่องให้ลูกไปกินที่โรงเรียน

แม้คุณอาจจะแจ้งกับทางโรงเรียนว่าลูกแพ้อาหารใดบ้าง แต่ก็อย่าเพิ่งไว้วางใจไปค่ะ ทางที่ดีแนะนำให้คุณแม่จัดเตรียมข้าวกล่องสำหรับกินตอนช่วงกลางวันไปให้ลูกเองดีกว่า และควรพกขนมไปด้วย เพราะบางทีเด็กๆ อาจจะลืมตัว เผลอไปกินขนมหรืออาหารที่ทางโรงเรียนเตรียมไว้ให้ โดยอาหารหรือขนมนั้นๆ อาจจะมีส่วนผสมที่ทำให้ลูกแพ้อยู่ก็เป็นได้

5.บอกให้ญาติพี่น้องรับรู้

ในบางครั้ง คุณพ่อคุณแม่อาจจำเป็นจะต้องฝากลูกไว้ให้ญาติพี่น้องคนอื่นๆ ช่วยเลี้ยงดู หรือหากมีใครมาช่วยเลี้ยงที่บ้าน หรือไม่ว่าจะเป็นสมาชิกคนใดในบ้านที่อาศัยอยู่ร่วมกันก็ตาม ควรบอกให้พวกเขารู้ด้วยว่าลูกของคุณแพ้อาหารใดบ้าง ให้ทุกคนได้รับรู้และเข้าใจตรงกัน เพื่อเป็นการป้องกันการแพ้อาหารของลูกในยามที่คุณไม่ได้อยู่ด้วยนั่นเองค่ะ

และนี่ก็คือ วิธีรับมือเมื่อลูกแพ้อาหาร หวังว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่จะทำได้ไม่ยากอย่างแน่นอน เพื่อให้ลูกกินอาหารเพื่อเสริมสร้างสุขภาพดีโดยห่างไกลปัญหาแพ้อาหาร อย่าลืมทำตามคำแนะนำจากเรานะคะ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook