‘สะตอผัดกุ้ง’ เมนูอร่อยล้นพุงที่คุณต้องชิม!

สะตอเป็นผักชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาประกอบอาหารทานกันไม่น้อย วันนี้เราเลยมีเมนูเกี่ยวกับสะตอมานำเสนอให้ลองไปทำทานกัน ว่ากันว่าสะตอให้รสชาติดีมากและยังมาพร้อมสรรพคุณและประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน ว่าแล้วเราก็มาดูไปพร้อมกันเลยนะคะ

วัตถุดิบและเครื่องปรุง
- สะตอ
- กุ้ง(ล้างน้ำแกะเปลือกผ่าเอาเส้นดำข้างหลังออก)
- กระเทียม
- พริกขี้หนู
- พริกชี้ฟ้า
- น้ำมัน
- เกลือ
- น้ำตาลปี๊ป
- น้ำปลา
- น้ำซุป

ขั้นตอนการทำ
1. นำพริกชี้ฟ้ามาหั่นสไตล์และแคะเอาเม็ดออก นำเกลือ กระเทียม พริกขี้หนูและพริกชี้ฟ้ามาโขลกรวมกันให้ละเอียด
2. ตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันให้ร้อน นำส่วนผสมที่โขลกไว้มาผัดลงไปให้มีกลิ่นหอม
3. ใส่เนื้อกุ้งลงไปผัดจนเกือบสุก จากนั้นใส่สะตอตามลงไปแล้วใส่น้ำซุปต่อ
4. ปรับระดับไฟให้แรงขึ้นแล้วผัดคลุกเคล้ากันจนสะตอสุก
5. ระหว่างนี้ใส่เครื่องปรุงเพิ่มรสชาติกันได้เลยค่ะ โดยใส่น้ำตาลปี๊ปและน้ำปลา ผัดทั้งหมดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ เมื่อได้รสถูกปากแล้ว ปิดไฟแล้วตักเสิร์ฟใส่จานทานกับข้าวสวยร้อนๆ ได้เลย

สะตอเป็นผักเศรษฐกิจที่มีความสำคัญชนิดหนึ่งของคนไทยเลยทีเดียวและยังเป็นที่นิยมในการบริโภคของคนหลากหลาย รสชาติดีไม่แพ้ผักชนิดอื่น สามารถทานได้ทั้งสดและปรุงอาหารหลากหลาย อุดมด้วยคุณค่าแห่งสารอาหารสูงและมีประโยชน์ในด้านสรรพคุณทางยาที่ดีต่อสุขภาพ เทียบได้กับผักสมุนไพรไทยอีกชนิดหนึ่งซึ่งจะช่วยลดน้ำตาลในเลือดและลดความดันโลหิตให้ลดลงได้ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมสรรพคุณทางยาที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมาย มีอะไรบ้างนั้นตามมาดูเพิ่มเติมเลยค่ะ

สรรพคุณและประโยชน์ของสะตอ
- ช่วยบำรุงสายตา เจริญอาหาร ป้องกันหลอดเลือดอุดตันและช่วยให้เม็ดเลือดแดงสามารถจับกลุ่มกันได้ดีขึ้น
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวานและยังสามารถป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้
- มีผลดีในการแบ่งตัวของเซลล์ในร่างกายอีกทั้งยังช่วยขับลมภายในลำไส้ได้ด้วย
- มีผลต่อการกระตุ้นการบีบตัวภายในลำไส้ ช่วยขับปัสสาวะ เป็นยาระบายและช่วยแก้ปัญหาท้องผูก แก้ปัสสาวะพิการและช่วยแก้ไตพิการได้
- มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
- สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น สะตอผัดกุ้ง สะตอผัดกะปิใส่กุ้งและแกงป่าสะตอ เป็นต้น

วิธีดับกลิ่นปากหลังกินสะตอ
แม้ว่าสะตอจะเป็นผักที่ให้คุณประโยชน์และรสชาติดี สามารถทำอาหารทานได้หลากหลายเมนูก็ตาม หากทานแล้วก็ยังมีกลิ่นปากตามมา คุณสามารถกำจัดกลิ่นปากดังกล่าวได้ด้วยการกินมะเขือเปราะตามไปอีก 2-3 ลูก เพียงเท่านี้ก็จะช่วยกำจัดปัญหากลิ่นเหม็นเขียวจากสะตอได้ในระดับหนึ่งแล้วค่ะ

ข้อควรระวัง
เพราะสะตอเป็นผักที่มีกรดยูริคสูงจึงมีข้อพึงระวังในการบริโภคอยู่บ้าง ในผู้ป่วยโรคเก๊าท์หรือผู้ที่ร่างกายมีกรดยูริกสูงเกินกว่ามาตรฐาน ไม่ควรรับประทานเพราะอาจจะส่งผลให้โรคดังกล่าวดำเริบหนักขึ้นได้ อีกทั้งกรดนี้ยังส่งผลให้ผู้บริโรคมีโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคนิ่ว ไตอักเสบและมีอาการหูอื้อตามมาได้ด้วย

ทราบกันเช่นนี้แล้ว ก็ควรบริโภคผักทุกชนิดในอัตราส่วนที่พอดีเท่ากัน ไม่มากหรือน้อยเกินไปและหันมาออกกำลังกายสม่ำเสมอ เราก็จะมีสุขภาพแข็งแรงห่างไกลจากโรคได้มากขึ้นแล้วค่ะ