เคล็ดลับเพื่ออารมณ์ดีของแม่และลูกน้อย

เคล็ดลับเพื่ออารมณ์ดีของแม่และลูกน้อย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับเด็กไม่ใช่แค่พัฒนาการด้านร่างกายเท่านั้นที่สำคัญ แต่พัฒนาการทางด้านอารมณ์และจิตใจก็ถือว่าเป็นสำคัญไม่แพ้กันเลย ดังนั้นการทำให้ลูกน้อยวัยทารกมีอารมณ์ดีและมีความสุขจึงเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องให้ความใส่ใจเป็นอย่างมาก วันนี้เรามีเคล็ดลับเพื่ออารมณ์ดีของแม่และลูกน้อยมาฝากกันค่ะ

เคล็ดลับเพื่ออารมณ์ดีของแม่และลูกน้อย
เคล็ดลับเพื่ออารมณ์ดีของแม่และลูกน้อย

1. เวลาที่ลูกน้อยกินนมแม่ ลองสังเกตดูว่าเวลาลูกกินนมแม่เสร็จแล้ว ถ้าลูกไม่เคลิ้มหลับ ก็จะยิ้มมีความสุขออกมา ซึ่งตามทฤษฎีจิตวิทยาแล้ว พฤติกรรมเหล่านี้ก็คือเขาได้รับการตอบสนองทางปาก เด็กจึงรู้สึกอิ่มท้องและอบอุ่นใจไปด้วย ดังนั้นเด็กส่วนใหญ่ที่กินนมแม่จึงเป็นเด็กที่ยิ้มง่าย หัวเราะเก่ง และอารมณ์ดี ส่วนตัวคุณแม่เองก็รู้สึกผูกพันกับลูกมากขึ้นด้วยค่ะ

เคล็ดลับเพื่ออารมณ์ดีของแม่และลูกน้อย
เคล็ดลับเพื่ออารมณ์ดีของแม่และลูกน้อย

2. การอ่านนิทานให้ลูกฟัง เลือกหนังสือนิทานที่มีภาพสวยๆ สักเล่ม ที่มีภาษาไพเราะน่าฟัง มาอ่านให้ลูกฟังทุกวัน ช่วงแรกๆ เขาอาจจะยังไม่สนใจ ไม่มีสมาธิจดจ่อกับหนังสือได้นานนัก และต่อมาหนังสือเหล่านี้ก็อาจกลายเป็นของเล่นที่ลูกจะเอาเข้าปากมาอมมากัดเล่นอยู่เสมอ แต่เชื่อเถอะค่ะว่า เขาจะค่อยๆ เรียนรู้ภาษา และสนุกกับเนื้อเรื่องในนิทานได้เอง รวมถึงซึมซับข้อคิดดีๆ จากหนังสือไปด้วย ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เด็กๆ จะได้พัฒนาทางด้านอารมณ์และจิตใจให้มีความอ่อนโยนขึ้นด้วยค่ะ

3. การฟังดนตรีกับลูก มีงานวิจัยออกมามากมายที่ยืนยันว่าเสียงดนตรีช่วยพัฒนาสมองได้ และแน่นอนว่าสามารถส่งผลต่ออารมณ์ของลูกและแม่ด้วย ดังนั้นพ่อแม่จึงควรเปิดเพลงฟังกับลูกบ้าง เป็นเพลงอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเพลงเด็ก เพลงบรรเลง เพลงคลาสสิค หรือเพลงสไตล์ที่คุณชอบ ลองเปิดให้ลูกฟังและร้องเล่นไปกับลูกบ่อยๆ หรือถ้าพ่อแม่คนไหนเก่งดนตรี จะเล่นดนตรีให้ลูกฟังก็ได้นะคะ แล้วคุณจะพบว่าลูกจะยิ้มปากกว้าง หัวเราะเสียงดังทุกครั้งที่ได้ฟังเพลงกับพ่อแม่

เคล็ดลับเพื่ออารมณ์ดีของแม่และลูกน้อย
เคล็ดลับเพื่ออารมณ์ดีของแม่และลูกน้อย

4. การโอบกอดสัมผัสรักกันบ่อยๆ เด็กๆ มักชอบการถูกสัมผัส โอบกอด เพราะเขาอยู่ในท้องแม่โดยมีรกและน้ำคร่ำห่อหุ้มอยู่ตั้ง 9 เดือน เมื่อคลอดออกมาลูกน้อยจึงต้องการการโอบอุ้มอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นคุณแม่ควรโอบกอดสัมผัสและหอมลูกน้อยบ่อยๆ เป็นการส่งผ่านความรักที่มีความหมายมากกว่าคำพูดใดๆ เสียอีก เพราะมันรวมไปถึงความอบอุ่น ความรู้สสึกปลอดภัยมั่นคง ที่จะส่งผลโดยตรงต่ออารมณ์และจิตใจของลูกด้วย และแน่นอนว่าทำให้คุณแม่มีความสุขไปด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การที่เราเอาใจใส่ดูแลให้ความรักความอบอุ่นแก่ลูกน้อยก็สามารถทำให้ลูกน้อยของเรามีอารมณ์ดี แจ่มใสยิ้มแย้ม ร่าเริง อารมณ์ดีและควรหากิจกรรมทำร่วมกันกับครอบครัว พ่อ แม่ ลูกกันบ้างก็เป็นการช่วยพัฒนาการทางด้านร่างกาย สติปัญญา และอารมณ์ของลูกน้อยไปพร้อมกันด้วยค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook