พฤติกรรมการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์กับโรคต้อกระจกที่ชาวออฟฟิศควรรู้ !

วิถีการทำงานของผู้คนในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปจากการดำรงชีพในอดีตอย่างมากมาย เราหันมาใช้คอมพิวเตอร์เพื่อทำงานมากขึ้น อีกทั้งเหล่าสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตทั้งหลายก็ยังเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวัน จนกลายสภาพมาเป็นสังคมก้มหน้า ทั้งทำงานและพูดคุยอัพเดตข้อมูลข่าวสารมากมายในโลก ทำให้สายตาของเราถูกใช้งานอยู่ตลอดเวลาติดต่อกันหลายชั่วโมงโดยไม่ได้พักผ่อน

สิ่งที่ตามมาคือความเสื่อมสภาพ ความเสี่ยงที่จะเร่งให้ดวงตาเกิดปัญหาได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะโรค “ต้อกระจก” อีกหนึ่งผลกระทบที่สามารถเกิดขึ้นได้หากพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีทั้งเพื่อสื่อสารและการทำงานยังคงไม่เปลี่ยนไปจากเดิม

ลักษณะอาการของโรคต้อกระจก

โรคต้อกระจก (Cataract) เป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ โรคนี้เกิดขึ้นจากความเสื่อมสภาพของเลนส์แก้วตา ในช่วงแรกจะพบอาการขุ่นมัวคล้ายกระจกที่มีฝ้า ซึ่งความเสื่อมสภาพนี้หากพบทั่วไปจะเกิดขึ้นตามช่วงอายุ เป็นเรื่องของธรรมชาติที่เลนส์แก้วตาจะค่อยๆ ด้อยคุณภาพการใช้งานลง

นอกจากในวัยผู้สูงอายุแล้ว ยังอาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงวัยเด็ก เป็นความผิดปกติที่มีมาแต่กำเนิดหรือการถูกกระทบกระเทือน ทั้งนี้การใช้งานดวงตาหนักเกินไปโดยไม่ได้รับการพักผ่อน ก็เป็นตัวเร่งทำให้เลนส์แก้วตาเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควรได้เช่นกัน

จ้องหน้าจอนานเสี่ยงภาวะต้อกระจกเพิ่ม 2 เท่า

แม้ว่าต้นเหตุของต้อกระจกมีได้หลากหลายตั้งแต่ความผิดปกติแต่กำเนิด ความเสื่อมสภาพตามช่วงอายุ ไปจนถึงความเกี่ยวเนื่องทางพันธุกรรมก็มีผลทำให้ผู้คนเหล่านี้เกิดโอกาสเป็นดรคต้อกระจกได้มากกว่าคนทั่วไป ทั้งนี้การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือหน้าจอมือถือที่มีแสงสว่างอยู่ตลอดเวลา

การเพ่งอ่านหนังสือในหน้าจอเหล่านี้จะทำให้ดวงตาเกิดความอ่อนล้าอย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้งานอาจจะไม่รู้ตัว ทำให้ดวงตาถูกใช้งานจต่อเนื่องเกิน 3 ชั่วโมงต่อวันติดต่อกัน กลุ่มเหล่านี้ถือว่ามีความน่าเป็นห่วงที่สามารถเผชิญกับโรคต้อกระจกได้มากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่าตัว หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม เลนส์แก้วตาก็มีโอกาสสูงที่จะเสื่อมสภาพลงในไม่ช้า

การป้องกันความเสี่ยงจากต้อกระจกในกลุ่มวัยทำงาน

เนื่องจากการใช้คอมพิวเตอร์เป็นผู้ช่วยหลักในการทำงาน การพิมพ์งานอยู่หน้าจอคอมฯ ควรให้มีแสงสว่างมากพอที่จะช่วยให้เรามองเห็นหน้าจอได้ชัด ไม่เกิดอาการเสียสายตา ตัวอักษรให้มีความเข้มและมีขนาดใหญ่ขณะใช้งาน จะช่วยให้ดวงตาไม่ต้องเพ่งมากจนเกิดอาการเมื่อยล้า ทั้งนี้ควรพักสายตาอย่างน้อยชั่วโมงละ 5-10 นาที จ้องไปในที่ๆ ช่วยให้ดวงตาเกิดความผ่อนคลาย ไม่ว่าจะเป็นสีเขียวจากใบไม้ หรือผนังที่มีสีเข้มทึบ อาจจะหลับตาและกรอกตาไปมาลดความเมื่อยล้าให้น้อยลง

ส่วนในช่วงขณะทำงานอย่าลืมการกระพริบตาบ่อยๆ นั่งในท่าที่เหมาะสม ให้ดวงตาถูกวางอยู่ในตำแหน่งที่พอดี และที่สำคัญควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอเป็นส่วนประกอบ เพื่อช่วยบำรุงสายตาให้มีสุขภาพดีไปอีกนานด้วยค่ะ