เลือกกินน้ำมันแต่ละชนิดอย่างไรให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ
น้ำมันถือเป็นส่วนหนึ่งของสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งเราก็ใช้น้ำมันในการประกอบอาหารกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าน้ำมันจะมีประโยชน์ต่อร่างกายและเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการ แต่ถ้าหากเราไม่รู้วิธีใช้และทานน้ำมันอย่างไม่ถูกต้อง หรือทานเกินความจำเป็นกว่าที่ร่างกายต้องการ ก็อาจส่งผลทำให้ร่างกายของเราเกิดโรคต่างๆตามมาได้
เพราะฉะนั้น ก่อนซื้อน้ำมันเราควรศึกษาข้อมูลบริโภคให้ดีเสียก่อน ว่าประโยชน์ของน้ำมันแต่ละชนิดมีคุณสมบัติอย่างไร เหมาะที่จะนำไปประกอบอาหารในรูปแบบใดได้บ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ต่อตัวของเราเอง ซึ่งเราสามารถเลือกซื้อได้ดังนี้
1.น้ำมันปาล์ม
น้ำมันพืชชนิดหนึ่งที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวในระดับปานกลาง เป็นแหล่งวิตามินอีชั้นดีเลยก็ว่าได้ น้ำมันชนิดนี้จะทนความร้อนได้สูงและจะให้ความร้อนได้เร็วกว่าน้ำมันชนิดอื่นด้วย น้ำมันชนิดนี้เหมาะกับการทอดมากที่สุดและยังเป็นน้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูง แถมยังมีกรดไลโนอิกต่ำกว่าน้ำมันชนิดอื่นๆ แต่น้ำมันพืชชนิดนี้เมื่อทานมากจะทำให้คอเลสเตอรอลสูงได้
2.น้ำมันเมล็ดทานตะวัน
มีกรดไลโนเลอิกสูงจึงสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ได้ดี แถมยังมีวิตตามินอีที่ช่วยวห้เรรมีผิวพรรณที่เปล่งปลั่งสดใสอีกทั้งยังมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงอีกด้วย แต่น้ำมันเมล็ดทานตะวันนั้นเมื่อถูกความร้อนจะเกิดอนุมูลอิสระได้ง่ายจึงเหมาะกับการนำมาปรุงอาหารที่ไม่ต้องผ่านความร้อนสูง แต่อาจจะใช้กับความร้อนระดับปานกลาง อย่างการผัดอาหาร เป็นต้น
3.น้ำมันรำข้าว
มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวในระดับปานกลางจะมีคุณลักษณะที่คล้ายกับน้ำมันมะกอก จะมีสารโอรีซานนอลสูง เป็นสารชนิดหนึ่งที่ได้จากธรรมชาติ สารชนิดนี้จะไม่พบในน้ำมันชนิดอื่นเลย เป็นน้ำมันที่มีสรรพคุณช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและปรับสมดุลฮอร์โมนในสตรีวัยทองได้ด้วย
4.น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวชนิดเชิงเดี่ยว เช่น กรดโอเลอิก จะช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีได้ อีกทั้งยังมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระด้วย ช่วยยับยั้งการก่อตัวของเซลล์มะเร็งได้ดีดอีกด้วย แถมยังเป็นน้ำมันที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ เบต้าแคโรทีน ช่วยให้เรามีผิวหนังที่ยืดหยุ่น และยังป้องกันโรคผิวหนัง ลดรอยเหี่ยวย่นได้ แต่น้ำมันชนิดนี้จะไม่เหมาะกับการทอดนะคะ จะเหมาะกับการนำไปปรุงอาหารที่ไม่ต้องผ่านความร้อนมากกว่า
5.น้ำมันงา
ในน้ำมันงาจะสารเซซามอลที่สามารถช่วยชะลอความแก่ ลดความดันโลหิต และการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ด้วยอีกทั้งยังสามารถป้องกันโรคหลอดเลือดแข็งตัว และเส้นเลือดหัวใจตีบได้อีกต่างหาก น้ำมันงายังช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
หากเรากินน้ำมันอย่างถูกต้องเราก็จะไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคร้าย เพราะฉะนั้น เราต้องทานเท่าที่จำเป็นและน้ำมันแต่ละประเภทนั้นเราควรนำมาปรุงอาหารอย่างถูกต้องด้วย