โรค Burnout Syndrome รับมือรักษาได้ด้วยตัวคุณเอง
เมื่อใดที่รู้สึกว่าคุณมีอาการของโรค Burnout Syndrome เกิดขึ้นแล้ว สำหรับชาวออฟฟิษทั้งหลายไม่ควรนิ่งนอนใจเด็ดขาด เพราะมันอาจจะส่งผลให้เกิดโรคเครียดเรื้อรัง โรคซึมเศร้าและทำลายคุณภาพชีวิตที่ดีให้ย่ำแย่มากขึ้นได้
หากรีบสังเกตอาการได้ทันก็สามารถรับมือรักษาและป้องกันมันได้แน่นอน โดยสามารถรักษาและป้องกันด้วยตัวเองได้ง่ายๆ ดังนี้
ทำสิ่งที่ทำให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย
เมื่อรู้สึกว่ามีอาการเครียดจากการทำงานเกิดขึ้น ให้หยุดแล้วมองหาสิงที่ทำให้ใจคุณสงบและผ่อนคลาย จงเลือกทำสิ่งนั้นๆ เช่น นั่งสมาธิ อ่านหนังสือ เขียนระบาย จิบเครื่องดื่มอุ่นๆ สูดดมกลิ่นหอมอะโรม่า ลุกเดินเล่นไปสูดอากาศบริสุทธิ์ พูดคุยกับคนที่ทำให้เราผ่อนคลายหรือรู้สึกดีๆ หรือฟังเพลง เป็นต้น
ทำกิจกรรมสร้างเสริมความสุข
หลังจากเลิกงานแล้วหรือในวันหยุด คุณควรหากิจกรรมทำกับคนรอบตัวบ้าง เช่น ไปออกกำลังกายกับเพื่อนๆ ช้อปปิ้งกับเพื่อนสนิท ไปเที่ยวกับคนรัก ใช้ชีวิตกับคนในครอบครัวที่คุณรัก ลองหากิจกรรมทำกับคนกลุ่มใหญ่ๆ หรือคนที่มีความรู้สึกดีๆ ให้กับคุณ มันจะทำให้คุณอบอุ่นใจ รู้สึกดีมากขึ้นและมีความสุข ไม่เครียดอย่างที่ควรเป็นอีกต่อไป
พักการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างโทรศัพท์มือถือหรือโน้ตบุค เป็นเครื่องมือที่จะทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปได้ง่ายขึ้น แต่ไม่แคล้วหรอกค่ะที่คุณจะต้องกดเข้าไปเช็คเมล์ ไปตรวจดูงาน ทำให้สมองไม่อาจหยุดคิดเรื่องงานได้ เมื่อนั้นความตึงเครียดก็จะกลับมาสุมหัวอีกครั้ง ดังนั้น ในวันหยุดพักผ่อน จงหยุดพักการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปด้วยจะดีมาก
นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
มีการวิจัยบอกไว้ว่าคนที่นอนหลับน้อยกว่าวันละ 6 ชั่วโมง เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรค Burnout Syndrome ได้ ซึ่งผลกระทบจากการนอนไม่พอที่เราเห็นเด่นชัดก็คือ ทำงานแบบไร้สมาธิ เหนื่อยล้าง่ายและทำให้งานออกมามีประสิทธิภาพต่ำ นอกจากนี้ ยังทำให้คุณภาพการใช้ชีวิตในด้านอื่นๆ แย่ลงตามและนำมาสู่การเกิดโรคเครียด หรือโรคซึมเศร้าอีกด้วย เพราะฉะนั้น ปรับพฤติกรรมการนอนโดยนอนพักผ่อนให้ครบวันละ 7 – 8 ชั่วโมงอย่างเต็มอิ่มจะดีกว่า
จัดระบบชีวิตใหม่
การจัดระบบชีวิตใหม่ ควรเริ่มต้นจากการวางแผนการพักผ่อนหาเวลาใส่ใจตัวเอง ทั้งด้านการกินอาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย นอนพักผ่อนให้เพียงพอ จากนั้นหันมาจัดการวางแผนเรื่องการทำงาน จัดระเบียบงานที่สำคัญ ไล่ลำดับก่อนหลังที่ควรทำ จัดโต๊ะทำงานใหม่หรือหารางวัลให้ตัวเองได้ชื่นใจกับการทำงานบ้าง มันจะทำให้ชีวิตของคุณมีระบบและระเบียบง่ายขึ้น สมองของคุณจะมีสมาธิมากขึ้นในการทำสิ่งต่างๆ ตามแผนที่วางไว้อย่างเป็นระบบอีกด้วย
ท้ายที่สุดแล้ว หากใครไม่สามารถรับมือป้องกันหรือแก้อาการของโรค Burnout Syndrome ได้เลย แนะนำให้ปรึกษาคนรอบตัวที่ไว้ใจหรือปรึกษาจิตแพทย์จะดีกว่านะคะ