ข้อควรรู้! กับการทาแป้งฝุ่นให้สวยใสแบบธรรมชาติ

ในอดีตเราอาจจะคุ้นกับการทาแป้งที่เป็นแบบแป้งตลับหรือที่เรียกกันว่าแป้งพัฟมากกว่า แต่ในปัจจุบันจะมีเครื่องสำอางแต่งหน้าที่หลากหลายเพิ่มเข้ามาเป็นตัวเลือกให้เรา โดยเฉพาะทางเลือกสำหรับสาวๆ ที่มีทั้งแป้งพัฟและเป็นแป้งฝุ่น ซึ่งแป้งฝุ่นที่ออกแบบมาก็เน้นใช้สำหรับการแต่งหน้าเช่นเดียวกับแป้งพัฟนั่นเอง ความแตกต่างของแป้งชนิดนี้คือ แป้งที่มีเนื้อละเอียดมากกว่าแป้งฝุ่นทั่วไปที่ใช้สำหรับทาตัว

เพียงแค่ไม่ได้ผ่านกระบวนการอัดแข็งเท่านั้น การนำมาใช้จะอยู่ในรูปแบบผง ข้อดีคือ ใช้สำหรับรองพื้นก่อนการแต่งหน้าในขั้นตอนอื่นๆ ทำให้เครื่องสำอางไม่หลุดออกมาง่าย แถมที่สำคัญเป็นทางเลือกสำหรับสาวๆ ที่อยากให้ใบหน้าของตัวเองขาวเนียนใสอย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้นใครที่สนใจหันใช้แป้งฝุ่นมากกว่าแป้งพัฟ ลองมาดูเทคนิคในการใช้ให้เหมาะสม เพื่อการแต่งหน้าที่สมบูรณ์แบบกันดีกว่าค่ะ

ควรทาแป้งฝุ่นในขั้นตอนไหนของการแต่งหน้า ?

สำหรับขั้นตอนการทาแป้งฝุ่น จะทาภายหลังจากการเตรียมผิวตัวเองให้พร้อมสำหรับการแต่งหน้าก่อน ตามด้วยการลงรองพื้นซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้การทาแป้งฝุ่นมีความเรียบเนียน เกลี่ยแล้วได้ความเป็นธรรมชาติทั่วใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด โดยให้สาวๆ จำขึ้นใจไว้เลยว่า การทาแป้งฝุ่นจะต้องไม่ทาหนาเกินไป ซึ่งจะกลายเป็นการทำให้ใบหน้าดูลอยออกมาจากสีผิวจริงนั่นเอง

ขั้นตอนการทาแป้งฝุ่นให้ถูกวิธี

กรณีที่ไม่มีพัฟแบบเนื้อผ้าอยู่ด้านในเป็นตัวช่วยทา เราสามารถใช้แปรงปัดหน้าที่มีความนุ่ม และมีขนแป้งที่มีคุณภาพ โดยใช้ส่วนของปลายขนแปรงแต่แป้งฝุ่นเพียงบางๆ เท่านั้น แล้วเคาะก้านแปรงที่บริเวณหลังมือ เพื่อกำจัดเอาแป้งฝุ่นที่เกาะอยู่มากเกินไปที่ขนแปรงออก

จากนั้นให้ทาแปรงลงบนส่วนกลางของใบหน้าเป็นจุดเริ่มต้น เน้นการปัดแบบเบาๆ ให้ทั่ว แล้วค่อยกระจายพื้นที่ไปยังบริเวณข้างเคียงจนถึงขอบใบหน้า แล้วตบด้วยการแตะแปรงที่เปลือกตา ใบหู ตามขอบของรูจมูก เพื่อให้แป้งเรียบเนียนทั่วถึงกันทั้งใบหน้านั่นเอง p

ข้อควรรู้สำหรับการใช้แป้งฝุ่น

กรณีที่ที่สาวๆ จะต้องแต่งหน้าออกงานกลางคืน ควรเลือกใช้แป้งฝุ่นที่มีกลิตเตอร์ช่วย เน้นเป็นตัวไฮไลท์บริเวณปลายคาง ที่ไหปลาร้า และหัวไหล่ด้วย ซึ่งจะช่วยสะท้อนแสงทำให้เกิดความโดดเด่น ผิวดูเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น

นอกจากนี้ ควรใช้แป้งฝุ่นควบคู่ไปกับรองพื้น และเลือกแป้งฝุ่นเฉดสีที่เหมาะกับผิวตัวเอง นั่นก็คือการเลือกใช้เฉดสีที่สว่างกว่าผิว 1 เบอร์เท่านั้น จะได้ไม่ดูเด่นชัดจนหมดความเป็นธรรมชาติเอาได้ค่ะ