เลือกทาลิปสติกอย่างไรให้เหมาะกับตัวเองที่สุด
การเลือกใช้ลิปสติกให้สวยนั้นควรเลือกให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด และเลือกให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ด้วยนะคะ การใช้ลิปสติกแท่งใหม่อาจจะดูไม่คุ้นเคยเท่ากับแท่งเก่า เพราะการใช้ลิปสติกสีใหม่อาจจะยังไม่เข้ากับสีผิวของคุณ ยิ่งถ้าทาไม่เข้ากับสถานการณ์และกิจกรรมแล้วละก็ มีหวังโดนหัวเราะเยาะแน่ๆ เลย คุณไม่ควรพลาดเรื่องแบบนี้ใช่มั้ยคะ
เพราะฉะนั้น สำรวจตัวเองให้ดีนะคะ ว่าก่อนออกจากบ้านนี่เป๊ะหรือยัง โดยเฉพาะส่วนปากนี่แหละเพราะเราใช้ปากในการสื่อสารกับผู้คนมากมาย หากมีปากที่สวยแล้วละก็เชื่อได้เลยว่าใครๆ ก็จะหลงใหลในคำพูดของคุณอย่างแน่นอน ดังนั้น การเลือกใช้ลิปสติกจึงเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว มาดูวิธีเลือกลิปสติกให้เหมาะกับตัวเองดีกว่า
ผิวขาว
คุณมีผิวขาวใช่มั้ย ลิปสติกสีโทนเย็นจะเหมาะกับริมฝีปากของคุณมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นสีชมพู สีคอรัลหรืออาจจะเป็นสีวาวๆ เนื้อกลอส สาวผิวขาวควรหลีกเลี่ยงการใช้ลิปสติกสีน้ำตาลหรือสีดำ เพราะมันไม่เป๊ะสำหรับคุณเอาซะเลย อีกทั้งยังทำให้คุณดูจืดชืดมากกว่าเดิมอีกด้วย
ผิวสองสี
สาวๆ ผิวสองสีฟังทางนี้ คุณจะเหมาะกับลิปสติกสีโทนอุ่นมากกว่า อย่างเช่น สีชมพูกลีบดอกกุหลาบ หรืออาจจะเป็นสีเฉดเบอรี่ทั้งหลาย ควรเลี่ยงการใช้ลิปสติกสีเข้มมืดมากจนเกินไป เพราะจะทำให้คุณมีสีผิวที่ดำขึ้น เพราะฉะนั้นการเลือกใช้สีสว่างๆ จะดีที่สุดนะคะ
ผิวคล้ำ
ผิวคล้ำเหมาะมากเลยกับลิปสติกสีน้ำตาลและสีม่วงหรือสีออกพลัม ช็อคโกแลตเมื่อนำมาทาแล้วรับรองว่าเจิดจรัสสุดๆไปเลย อีกทั้งยังทำให้คนผิวคล้ำดูดีมีเสน่ห์อย่างน่าหลงใหลมากที่สุดเลยล่ะ
ทริคในการทาลิปสติก
อยากทาลิปสติกให้ออกมาสวยก็ต้องมีทริคกันบ้าง สาวๆ ทำตามนี้ได้เลยค่ะ
1.การทาลิปสติกสำหรับกลางวัน
การทาลิปสติกในเวลากลางวันควรเลือกทาเฉดสีอุ่นถึงจะดูสวย ไม่ควรทาสีเข้มนะคะ เพราะมันจะทำให้ดูเด่นเกินไปจนดูไม่เป็นธรรมชาติได้นั่นเอง
2.การทาลิปสติกสำหรับกลางคืน
ในเวลากลางคืนจัดเต็มได้เลยค่ะ จะเข้มจะแซ้บขนาดใหนทำได้ตามสบายเลย ลิปสติกสีเข้มจัดนี่เหมาะกับกลางคืนสุดๆ เลยล่ะ
3.สาวปากบาง
ควรหลีกเลี่ยงการทาลิปสติกสีเข้ม หันมาเลือกใช้ลิปสติกสีเนื้อครีมดีกว่า เพราะจะทำให้ปากของคุณดูอวบอิ่มมากกว่าเดิม
4.สาวปากหนา
การใช้สีเฉดเข้มจะทำให้คุณดูเริดมากเลยทีเดียวลองดูสิคะเปะเวอร์แน่นอน
การเลือกใช้ลิปสติกไม่ยาก แค่เลือกให้ถูกนะคะจะได้สวยเปะตลอดวันและสวยถูกที่ถูกเวลาด้วยนั่นเอง