แนะนำการแต่งหน้ารับ ออทั่ม-วินเทอร์

แนะนำการแต่งหน้ารับ ออทั่ม-วินเทอร์

แนะนำการแต่งหน้ารับ ออทั่ม-วินเทอร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

ถ้าจะคุยเรื่องเทรนด์การแต่งหน้า สีสันเฉดไหนจะมาแรงพุ่งปรี๊ดๆ จนสาวๆ ทุกวัย ต้องไล่ตามอัพเดทกันให้วุ่นนั้น คงไม่มีใครรู้ลึกไปกว่า เมคอัพ อาร์ติสท์ มืออาชีพเป็นแน่ ช่วงนี้ที่เมืองนอกเริ่มย่างเข้าสู่ฤดู Autumn-Winter กันแล้ว การนำเสนอแฟชั่นเสื้อผ้าฤดูหนาว กับโทนสีเครื่องสำอางก็มักจะไปด้วยกันเสมอ แล้วปีนี้เทรนด์ไหนจะเป็นกระแสแฟชั่นให้สาวๆ ทั่วโลกได้จับตามองกัน!!

ออริเฟลม บริษัทขายตรงจากประเทศสวีเดน ผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ด้านความงามจากธรรมชาติคุณภาพสูง ไม่ยอมให้สาวไทยตกเทรนด์อยู่แล้ว จึงถือโอกาสเชื้อเชิญ เมคอัพ อาร์ทิสต์ ชั้นแนวหน้าของวงการแฟชั่นไทย อย่าง ลูกน้ำ-สุคนธ์ สีมารัตนกุล มาแนะนำ เทรนด์การแต่งหน้าเพื่อต้อนรับช่วง Autumn-Winter ที่กำลังมาแรงในแหล่งแฟชั่นเมืองนอกขณะนี้ให้สาวน้อยสาวใหญ่ที่รักการแต่งหน้า ได้นำกลับไปแต่งสวยด้วยตัวเองบ้าง โดยมีดาราสาวหน้าสวย แก้มบุ๋ม-พิมพ์นิภา จิตตธีรโรจน์ และ นาตาลี เดวิส มาเป็นนางแบบให้ด้วย

 

"การแต่งหน้าสไตล์ที่ผู้หญิงสามารถนำไปใช้ได้ในทุกโอกาส ไม่ว่าไปทำงาน ไปงานเลี้ยง หรือเที่ยวกลางคืน ตอนนี้ที่เมืองนอกเริ่มเข้าสู่ฤดู Autumn-Winter ฉะนั้นสีที่มาแรงจะแบ่งออกได้เป็นโทนสีหลักๆ 2 โทนคือ โทนสีนู้ด ซึ่งเป็นโทนสีที่ใช้ได้ง่าย สำหรับผู้หญิงที่ชอบการแต่งหน้าดูเป็นธรรมชาติ สบายตา ส่วนอีกสีหนึ่งคือ โทนสีทึมๆ ซึ่งอาจเป็นสีเทา โดยปกติทุกฤดูหนาวสีดำจะมาแรง แต่ปีนี้สีเทาจะมาแทน ถ้าอยากแต่งให้อินเทรนด์หน่อยก็คือ แต่งด้วยโทนสีสโมคกี้อายส์ โดยผสมสีเทาเข้าไปด้วย แทนที่จะใช้สีดำอย่างเดียว นอกจากนี้ยังมีโทนสีทึมๆ ต่างๆ อีก อย่าง สีน้ำตาลเข้ม ม่วงเข้ม น้ำเงินเข้ม และสีที่ผสมมาทางทึมหม่นๆ เราจะไม่ใช้สีสดอย่าง ชมพูสด ม่วงสด เขียวสด เพราะไม่ใช่สีที่จะมาในซีซั่นนี้" หนึ่งในกูรูเรื่องการแต่งหน้าของเมืองไทย เกริ่น ก่อนเริ่มต้นลงมือแต่งแต้มสีสันบนใบหน้าสวยๆ ของนางแบบสาว


สิ่งหนึ่งที่ คุณลูกน้ำ ไม่มองข้ามคือ สำรวจนางแบบก่อนว่าใส่เสื้อผ้าโทนสีอะไร เพราะจะได้ใช้โทนสีเดียวกันแต่งหน้าให้เข้ากับชุด เมื่อเห็นว่า แก้มบุ๋ม มาในชุดโทนสีชมพูอ่อน ดูสวยหวาน จึงใช้โทนสีแต่งหน้าให้ดูเป็นสาวหวาน แต่งหน้าเบาๆ หวานๆ ซึ่งสามารถแต่งได้ทุกวัน ส่วนนาตาลี มาในชุดกระโปรงสั้นลายดอกไม้สีน้ำเงินสุดเปรี้ยว จึงเลือกใช้โทนแต่งหน้าลุคโฉบเฉี่ยวสำหรับงานกลางคืน ข้อแนะนำสำหรับผู้หญิงทุกคน คือ ก่อนแต่งหน้า เราต้องนึกก่อนว่าจะใส่เสื้อผ้าสีอะไร ไม่ใช่แต่งหน้าเสร็จแล้วค่อยเลือกสีชุด

 

มาเริ่มเรียนรู้วิธีสร้างสีสันความสวยกับช่างแต่งหน้าคนดังกันเลยดีกว่า ขั้นตอนแรก หลังจากทำความสะอาดใบหน้าแล้ว คุณลูกน้ำ กล่าวว่า การแต่งหน้าที่ทำให้ผู้หญิงดูสวยเนียนขึ้น และช่วยปกปิดริ้วรอยได้ดี คือการใช้ รองพื้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ปัญหาต่างๆ สำหรับผู้หญิง คือ ทำไมเวลาแต่งหน้าแล้วสีไม่ติด ทาอายแชโดว์ไม่ติด นั่นเพราะไม่ได้ใช้รองพื้นให้เป็นเบสของหน้าเพื่อให้สีของเครื่องสำอางติดซับบนส่วนต่างๆ บนหน้าเรา
"ผมเลือกใช้รองพื้น จิออร์ดานี่ โกลด์ เอจ-ดีฟายอิ้ง เฟิร์มมิ่ง ฟาวเดชั่น (Giordani Gold Age-Defying Firming Foundation) เนื้อบางเบาปกปิดง่าย เกลี่ยง่ายและเนียน สิ่งสำคัญที่อยากฝากไว้คือ การเลือกซื้อรองพื้นต้องลองทาก่อนว่าเข้ากับสีผิวเรามั้ย ถ้าทาแล้วเป็นสีเดียวกับผิวเราแสดงว่าใช้ได้ ต่อไป เป็นการเลือกสีของแป้งฝุ่น ซึ่งควรเป็นโทนเดียวกับรองพื้น เพราะเมื่อนำมาผสมกันหลังจากลงรองพื้นแล้วจะทำให้เนียนขึ้น ผมใช้แป้งฝุ่นรุ่น แอร์ซอฟท์ เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ควบคุมความมันในระหว่างวันด้วย"

ต่อไป ถึงเวลาเติมสีสันให้กับใบหน้าแล้ว เริ่มจาก คิ้ว ที่ได้รับการแต่งแต้มด้วย โมโน อายแชโดว์เอสเซ็นเชียล สีคาปูชิโน่ แทนดินสอเขียนคิ้ว ในส่วนนี้ ลูกน้ำ บอกว่า เพราะคิ้วของคนไทยส่วนใหญ่ค่อนข้างเข้มเหมือนสีผม ถ้าใช้ดินสอเขียนคิ้วที่สีเข้ากับสีคิ้ว สีผม ที่เข้มไป จะทำให้หน้าดูดุไปกันใหญ่ จึงหันมาใช้อายแชโดว์สีน้ำตาล เนื้อของอายแชโดว์ทำให้เขียนคิ้วดูเป็นธรรมชาติมากกว่า

"วิธีใช้แปรงปัด เริ่มจากหัวคิ้วไล่ไปตามหางคิ้วได้เลย คนที่มีขนคิ้วเข้มอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องเขียนก็ได้ ใช้แค่เจลใสปัดไปตามรูปคิ้วที่เรากันได้รูปแล้วก็พอ แต่คนที่คิ้วบางหรือสีอ่อนจำเป็นต้องใช้อายแชโดว์ช่วยไล้ก่อน เราอาจใช้พู่กันที่เป็นแปรงลักษณะหัวแบน ไล้บริเวณหัวคิ้วทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้หัวคิ้วดูนุ่มเป็นธรรมชาติไม่แข็งจนเกินไป จากนั้นจึงใช้พู่กันที่มีปลายเล็ก เขียนต่อเติมลักษณะรูปคิ้วไล้ไปตามปลายหางคิ้วได้ง่ายกว่าอันใหญ่

"คิ้วสวยแล้ว ก็มาถึงการลงอายแชโดว์บ้าง สำหรับผู้หญิงไทย ไม่ว่าจะแต่งหน้าแบบธรรมดา ใส่เสื้อผ้าแบบใด กางเกงหรือกระโปรงก็ตาม สีที่เหมาะสุดคือ โทนสีน้ำตาล เพราะเข้ากับทุกชุดได้อยู่แล้ว เพียงแต่เราต้องรู้จักนำมาผสมกับสีอื่นๆ ที่อยากใช้ ถ้าเรามีสีเสื้อผ้าที่เป็นแม่สี ก็นำโทนสีของเสื้อผสมเข้าไปกับสีน้ำตาล จะทำให้เกิดมิติของน้ำหนักโทนสีขึ้นมา"


สิ่งที่อยู่ในมือ เมคอัพ อาร์ทิสต์ คนดัง เป็น อายแชโดว์ จิออร์ดานี่ โกลด์ คัลเลอร์ ควอร์เท็ต ฟอร์ อาย (Giordani Gold Colour Quartet for Eyes) ใน 1 ตลับจะมี 4 เฉดสี คือ สีอ่อนสำหรับไฮไลท์ สีกลางทำให้ดวงตามีมิติ แล้วสีเข้มทำให้ตาดูคมขึ้น เขาบอกว่าใช้ได้หมดทุกเฉดเลย เริ่มจากใช้สีอ่อนก่อน คือ สีชมพู ไล้บริเวณหัวตาเพื่อให้ตาดูสว่างขึ้น มีมิติ แล้วใช้สีเข้มคือโทนสีน้ำตาล เน้นหางตาเพื่อสร้างน้ำหนัก ถ้าคนตาชั้นเดียวก็ใช้สีน้ำตาลช่วยทำให้ตาดูมี 2 ชั้นขึ้น ก่อนที่จะใช้สีน้ำตาล อยากให้นำมาผสมบนฝ่ามือนิดหนึ่ง ให้สีผสมกัน แล้วทาบริเวณหางตาเข้ามากึ่งกลางตา เกลี่ยให้เข้ากัน


หลังจากนั้นก็มาเขียนใต้ตาด้วยสีเข้มคือ น้ำตาล จากปลายหางตาล่างไล้เบาๆ มาสู่หัวตา ทำให้ดวงตาดูโตขึ้น การใช้อายแชโดว์ฝุ่นไล้บริเวณตาล่าง ทำได้ดีกว่าใช้ดินสอเขียนขอบตา เพราะทำให้ผิวบริเวณใต้ตาเป็นรอยย่นได้ง่าย นอกจากแต่งดวงตาด้วยโทนน้ำตาลและออกชมพูแล้ว สำหรับคนที่ต้องการให้ดวงตาดูกลมโตมากขึ้น ก็สามารถใช้ คาจาล อายไลเนอร์ (Kajal Eyeliner) ซึ่งคล้ายกับอายไลเนอร์ของแขก ผลิตภัณฑ์ใหม่ของออริเฟลม คนตาโตอยู่แล้วบางครั้งดูโตเกินไป เราใช้คาจาลเขียนเปลือกตาด้านล่างและข้างในสีดำเพื่อให้ตาดูเล็กลง และถ้าแต่งตาโทนสีอ่อน ก็จะช่วยให้ดูคมขึ้น


ขั้นตอนต่อไปคือการปัดมาสคาร่า ให้ขนตางอนเด้ง เมคอัพอาร์ทิสของเราเลือกใช้ ออริเฟลม บิวตี้ วันเดอร์ แลช วอเตอร์พรู๊ฟ (Oriflame Beauty Wonder Lash Waterproof Mascara) มาสคาร่า ที่มีแปรงปัดแบบสามมิติ ช่วยให้ขนตางอนงามได้อย่างยาวนาน ทริคเด็ดในขั้นตอนการปัดมาสคาร่าคือ ต้องดัดขนตาก่อน เนื่องจากขนตาของหญิงไทย 80% จะทิ่มลง เวลาปัดมาสคาร่าจะเลอะบริเวณขอบตาด้านล่าง จึงต้องดัดขนตาก่อนเพื่อช่วยให้ขนตางอนขึ้นไปข้างบน ถ้าดัดทุกวันจะทำให้งอนขึ้นได้ง่าย แล้วจะปัดขนตาได้สวย เริ่มจากปัดด้านบนก่อน แล้วต่อด้วยขนตาล่าง ถ้าปัดครั้งเดียวขนตาจะไม่งอนและไม่เข้มมาก ดูเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าชอบให้ตากลมโตคมเข้ม ก็ปัดซ้ำได้เพื่อให้ดูหนาขึ้น

"ดูแลในส่วนของคิ้ว ตา เรียบร้อยแล้ว มาเน้นที่แก้มกันบ้าง เราจะปัดแก้มด้วย บรัช ทัช ดูโอ (Brush Touch Duo) เป็นโทนออกชมพูเช่นกัน วิธีการปัดเพื่อให้แก้มดูมีสีเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นจ้ำมากเกินไป ต้องปัดจากบริเวณจอนผมด้านข้างไล่เข้ามาทางแก้ม ทำให้ใบหน้าดูมีมิติขึ้น เมื่อได้โหนกแก้มสวยแล้ว แต่ยังไม่พอ ต้องการเพิ่มความแวววาวให้พวงแก้มอีก ก็ปัดด้วย บรอนซิ่ง เพิร์ล (Bronzing Pearl) แล้วปัดทับอีกทีให้หน้ามีความวาวขึ้น
"การแต่งหน้าขั้นตอนสุดท้าย คือ การลงลิปสติก ซึ่ง ไฮดร้าคัลเลอร์ ลิปสติก (Hydra Colour Lipstick) ที่นอกจากมีสีสันสดสวยแล้วยังช่วยบำรุงให้เรียวปากชุ่มชื่นด้วย เพราะประกอบด้วยน้ำถึง 20% สำหรับเทคนิคการแต้มสีสันให้เรียวปาก ควรใช้พู่กันทาปากมากกว่าการใช้ลิปสติกทั้งแท่งทากับบริมฝีปากโดยตรง เพราะการดีไซน์แท่งลิปสติก ทำให้ทาได้เฉพาะช่วงกึ่งกลางริมฝีปากบน แต่บริเวณมุมปากเราไม่สามารถใช้ลิปสติกเขียนได้ เพราะทำให้รูปปากไม่คม ดูไม่สวย พู่กันจะเป็นตัวช่วยเขียนจากมุมปากเข้ามาตรงกึ่งกลางทำให้รูปปากสวย สี ลิปสติกไม่เลอะขอบปากด้วย"

ส่วนสาวคนใดที่วางแผนจะไปงานปาร์ตี้ยามราตรี ก็ไม่จำเป็นต้องไปเสียเงินให้ช่างแต่งหน้า เพียงใช้ขั้นตอนการแต่งหน้าที่แนะนำมาข้างต้น จากที่แต่งแบบเป็นธรรมชาติ ลงสีสันเครื่องสำอางแบบเบาๆ สวยใสในตอนกลางวัน ก็ให้เพิ่มน้ำหนักของสีเดิมเข้าไปอีกให้เข้มขึ้น รวมไปถึงการเขียนอายไลเนอร์ที่ขอบตาบน เพื่อให้ดวงตาดูคมเข้มขึ้น เหมาะกับชุดราตรี รวมไปถึงการใช้โทนสีลิปสติก อาจเปลี่ยนจากสีอ่อนเป็นสีสดขึ้น อย่างลุคของนาตาลี เดวิส ที่ใช้วิธีการแต่งหน้าเช่นเดียวกับแก้มบุ๋ม แต่เพิ่มน้ำหนักสีที่ดวงตาให้เข้มขึ้น รวมถึงโทนสีลิปสติกที่ชัดขึ้น เพียงเท่านี้ก็สามารถเติมความเปรี้ยว เฉี่ยว สำหรับไปงานกลางคืนได้อย่างมั่นใจแล้ว

คงไม่ยากเกินไป สำหรับการนำคำแนะนำดีๆ จาก เมคอัพ อาร์ทิสต์ ชั้นแนวหน้า ไปฝึกปรือผีมือลองแต่งแต้มสีหน้า เพื่อสร้างความสวยอินเทรนด์ในช่วงออทั่ม-วินเทอร์ ที่จะมาถึงได้อย่างสนุกๆ

หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ของผลิตภัณฑ์ออริเฟลม สามารถคลิกไปที่ www.oriflame.co.th หรือ โทร 02-715-1111

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook