เคล็ด(ไม่)ลับรับมือ.. เมื่อต้องอดนอน
มีใครไม่เคย “อดนอน” บ้าง อย่าปฏิเสธเชียวนะ เพราะเมื่อถึงมหกรรมฟุตบอลโลกทีไร หรือจำเป็นต้องสะสางงานให้เสร็จ มีงานเร่งด่วน หรือต้องดูหนังสือเพื่อเตรียมตัวสำหรับการสอบ ฯลฯ นี่อาจเป็นสิ่งที่ทำให้ใครหลายคนต้อง “อดนอน” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หลายคนมักคิดว่า “การอดนอน” เป็นเรื่องธรรมดา เพราะหาเวลาไปนอนชดเชยเอาก็ได้ หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งมีแนวคิดอย่างนั้น ก็คงจะต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติโดยเร็ว เพราะการอดนอนนอกจากจะทำให้ผิวรอบดวงตาและใบหน้าดูหมองคล้ำแล้ว ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินชีวิต รวมไปถึงเป็นสาเหตุของการเกิดโรคร้ายแรงต่างๆ อีกด้วย
เพราะการอดนอนติดต่อกันเป็นเวลานานๆ จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับอาการของโรคเบาหวาน และควบคุมได้ยาก นอกจากนี้ การอดนอนยังส่งผลให้การหลั่งฮอร์โมนเลปติน (Leptin) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่คอยควบคุมความรู้สึกหิวหรืออิ่มลดลง จึงทำให้เกิดความอยากอาหารเพิ่มขึ้น ทั้งๆ ที่รับประทานอาหารจนได้รับพลังงานที่เพียงพอแล้ว อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อการหลั่งฮอร์โมนที่จะไปกระตุ้นการเจริญเติบโตทางกายภาพ และคอยควบคุมสัดส่วนของไขมันต่อกล้ามเนื้อในร่างกาย
ดังนั้น การอดนอนจึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของโรคอ้วน ส่วนที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ยังส่งผลกระทบต่อเซลล์เม็ดเลือดขาวและกลไกการตอบสนองต่อภูมิคุ้มกันของร่างกายจึงทำให้เจ็บป่วยง่าย ทั้งยังไปเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง เนื่องจากฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายทำงานแปรปรวนอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น เพราะการอดนอนยังมีผลข้างเคียงต่อสภาพร่างกายอีกด้วย คือ ทำให้ร่างกายไม่ตื่นตัว มีอาการปวดหัวระหว่างวัน ทำให้ใบหน้าเหี่ยวย่น และเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ดังนั้น การป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ อย่าอดนอนโดยไม่จำเป็น แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรรับมือกับการอดนอนด้วยการปฏิบัติตน ดังนี้
1. รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบีและซี ซึ่งมีสารเซโรโทนินที่ทำให้สมองหายเครียด หรือเสริมอาหารด้วยวิตามินบี 100 วันละ 1 เม็ด และวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัมอีก 1 เม็ดหลังอาหารเช้า เนื่องจากการเข้านอนไม่เป็นเวลาจะทำให้ต่อมไพเนียลซึ่งมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนทำให้หลับปั่นป่วน ร่างกายจึงเกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว อาหารที่มีวิตามินบีและซีอยู่มาก ได้แก่ ข้าวกล้อง ผักผลไม้ หรือน้ำผลไม้คั้นสด
2. รับประทานอาหารเบาๆ และย่อยง่าย โดยทานในมื้อดึกที่ต้องอดนอนเพื่อเสริมพลังงาน เช่น น้ำเต้าหู้อุ่นๆ โจ๊ก หรือน้ำธัญพืช ไม่ควรทานอาหารไขมันสูงหรือเครื่องดื่มที่มีไขมันอย่างโกโก้ เพราะเป็นอาหารที่ประกอบไปด้วยไขมันที่ย่อยยาก ไม่ควรแก้ง่วงด้วยเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน และเข้านอนทันทีเมื่อกิจกรรมต่างๆ สำเร็จแล้ว
3. ไม่ควรชดเชยการอดนอนด้วยการนอนตื่นสาย เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายเซื่องซึม และสมองอ่อนล้า จึงควรตื่นนอนตามเวลาปกติ แล้วเติมความสดชื่นด้วยวิตามินหรืออาหารที่ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าจำพวกโสม ก็จะช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกาย และทำให้สมองปลอดโปร่งยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี หากสาวๆ จะหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่โดยเข้านอนแต่หัวค่ำ เพื่อให้ร่างกายได้มีเวลาพักผ่อนยาวนานเต็มอิ่ม เราก็จะสุขภาพดีสดใสไม่มีภาวะอดหลับอดนอนให้ต้องหงุดหงิดใจอีกต่อไปแล้วค่ะ