ระวัง! “ไวรัสซิก้า” ไวรัสตัวร้าย...ที่มียุงลายเป็นพาหะ
ปัจจุบัน ยิ่งมีแต่เชื้อไวรัสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นและยังหาวัคซีนป้องกันไม่ได้ โดยเฉพาะ "ไวรัสซิก้า" นับเป็นโรคร้ายชนิดหนึ่งที่เกิดจากยุงเป็นตัวการสำคัญหรือเป็นพาหะนำโรคไม่ต่างไปจากโรคไข้เลือดออก
ดังนั้น การรู้ทันโรคไวรัสซิก้า จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรรู้ว่ามันคืออะไร เกิดจากอะไร อาการของโรคเป็นเช่นไร รวมทั้งใครคือกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคไวรัสซิก้าได้มากที่สุด วันนี้เราจึงนำเนื้อหาที่น่าสนใจเกี่ยวกับโรคชนิดนี้มาฝากกันค่ะ ถ้างั้นตามไปอ่านพร้อมๆ กันเลยดีกว่า
โรคไวรัสซิก้าคืออะไร
โรคไวรัสซิก้าคือโรคที่เกิดจากไวรัสที่มีรหัสพันธุกรรมเป็น RNA สายเดี่ยว ซึ่งเป็นไวรัสที่อยู่ในตระกูลฟลาวรไวรัส หรือเป็นไวรัสที่อยู่ในตระกูลเดียวกับไวรัสเดงกี่ ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดเป็นโรคไข้เลือดออกนั่นเอง โดยไวรัสซิก้านี้จะมียุงประเภท Aedes aegypti เป็นพาหะนำโรค ซึ่งเป็นยุงประเภทยุงลายบ้านที่อาศัยอยู่ในประเทศเขตร้อน อีกทั้งยังเป็นยุงที่คอยเป็นพาหะของไวรัสเดงกี่อีกด้วย
โรคไวรัสซิก้าถูกค้นพบได้อย่างไร
สำหรับโรคไวรัสซิก้านี้ ถูกค้นพบครั้งแรกจากน้ำเหลืองของลิงวอก เป็นน้ำเหลืองที่ถูกนำมายังป่าซิกาส ประเทศยูกันดา และได้มีการนำมาศึกษาในส่วนของไข้เหลืองปี พ.ศ. 2490 และได้ถูกค้นพบเชื้อไวรัสซิก้าในคนเมื่อปี พ.ศ. 2511 ในประเทศไนจีเรีย รวมทั้งมีการค้นพบในประเทศแถบทวีปแอฟริกา ทวีปอเมริกา ทวีปเอเชียใต้ และหมู่เกาะในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก
อาการของโรคไวรัสซิก้า
อาการของโรคไวรัสชนิดนี้ จะแสดงอาการให้เห็นหลังจากที่ร่างกายได้รับเชื้อ และจะมีอาการที่แสดงออกคล้ายกับอาการของโรคไข้เลือดออก โดยจะมีผื่นแดงขึ้นตามตัว มีไข้สูง เยื่อบุตาอักเสบ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหัว ปวดข้อต่อ และรู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัว และอาการเหล่านี้จะเริ่มทุเลาลงภายใน 2-7 วัน
กลุ่มเสี่ยงที่สามารถเป็นโรคไวรัสซิก้า
กลุ่มเสี่ยงที่อาจเป็นโรคไวรัสซิก้าคือ กลุ่มผู้หญิงตั้งครรภ์ ซึ่งจัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในลำดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ โดยเมื่อผู้หญิงมีครรภ์มีการติดเชื้อก็อาจทำให้ทารกในครรภ์ได้รับอันตรายเป็นอย่างมาก เช่น เด็กจะมีขนาดของศีรษะที่เล็กกว่าปกติ และนี่ก็คือสิ่งที่หญิงตั้งครรภ์ทั้งหลายควรระมัดระวังและเอาใจใส่ ซึ่งก็ควรงดเดินทางไปในประเทศที่มีการระบาดของโรคไวรัสชนิดนี้
ทราบถึงโรคไวรัสซิก้ากันไปเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของกลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดโรคไวรัสชนิดนี้เป็นลำดับต้นๆ ก็คือ กลุ่มผู้หญิงมีครรภ์ สิ่งที่สามารถป้องกันจากโรคชนิดนี้ได้ จึงไม่ต่างจากวิธีการป้องกันโรคไข้เลือดออกนั่นเอง
เนื่องจากจุดเริ่มต้นและอาการของโรคทั้งสองจะมีความเหมือนและความคล้ายอยู่บางส่วน ยังไงก็ต้องใส่ใจในสุขภาพให้มีความแข็งแรงอยู่ตลอดเวลาจะเป็นการดีที่สุดนั่นเอง