แฟชั่นวินเทจกับแนวการแต่งตัวที่ไม่เคยตกเทรนด์ เติมเสน่ห์ให้สาวๆ ทันสมัยได้ตลอดเวลา
เสื้อผ้าวินเทจอาจจะเป็นแฟชั่นที่เหมือนจะเป็นการหยิบเอาเสื้อผ้าแบบยุคเก่ามาสวมใส่ใหม่อีกครั้งในยุคสมัยเช่นนี้ แต่สำหรับการแต่งกายสไตล์วินเทจ เราเชื่อว่าเป็นแฟชั่นที่ไม่ว่าจะแต่งอยู่ในช่วงไหนปีไหน ต่อจากนี้ไปก็จะไม่ตกยุค แถมยังสามารถมิกซ์แอนด์แมตท์กับเสื้อผ้าได้อย่างหลากหลาย
จะเป็นสาวเท่ห์ สาวหวาน หรือสาวเปรี้ยว ก็สามารถใช้การแต่งตัวแบบวินเทจเป็นตัวเลือกที่เข้าได้เกือบทุกงาน ใครอยากได้ไอเดียดีๆ แบบไม่ตกเทรนด์ ลองมาดูตัวเลือกเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเองด้วยการแต่งกายแนวนี้กันดีกว่าค่ะ
เลือกเสื้อผ้าจากหลายยุคมาจับให้เข้าชุดกัน
คือจะทำให้ตัวเองเป็นสาววินเทจได้นั้น แน่นอนว่าเสื้อผ้าตั้งแต่หัวจรดเท้าจะต้องเลือกมาจากยุคเก่า ซึงส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงยุค 80's เสียส่วนใหญ่ ลองไปเปิดหาแฟชั่นเหล่านี้ตามนิตยสารกันดูว่า เสื้อผ้าในยุคนี้ส่วนใหญ่เป็นแนวไหน แล้วลองมองหาแต่ละชุดมามิกซ์แอนด์แมทต์เข้าด้วยกัน ซึ่งไม่ใช่การจับมารวมกันแบบมั่วๆ แต่สาวๆ จะต้องรู้จักการเลือกจับคู่อย่างมีสไตล์ เพื่อสร้างเสน่ห์ในตัวเองแบบไม่ซ้ำใคร ด้วยการลองสวมใส่แล้วสังเกตดูว่า นี่เป็นตัวแม่แห่งแฟชั่นนิสต้าที่ดูสวยลงตัวแล้วหรือยัง แค่นั้นเอง !
แต่งตัวสไตล์วินเทจไปทำงานให้สวยเก๋
ในเมื่อสาวๆ อยากสร้างความชิคให้ตัวเองด้วยการหยิบเอาแฟชั่นวินเทจให้กลายเป็นชุดแต่งงาน หลายคนกลัวว่ามันจะดูไม่เหมาะสม กลายเป็นความเวอร์วังอลังการจนเกินไป คิดผิดแล้วล่ะค่ะ เพราะเราสามารถแต่งกายด้วยชุดสไตล์นี้ไปทำงานได้แบบมาดมั่น แถมยังเป็นที่อิจฉาเสียด้วย
หลักการเลือกให้เหมาะสมกับการเป็นชุดทำงาน คือการเลือกเสื้อผ้าวินเทจไปจับคู่กับไอเทมเสื้อผ้าที่มีความเป็นโมเดิร์น โดยให้ทั้งสองดูเข้ากันได้อย่างลงตัว ไม่โดดเด่นไปคนละทิศละทาง ตั้งแต่เสื้อผ้า กระโปรงหรือกางเกง รองเท้า เครื่องประดับทั้งสร้อยคอ สร้อยข้อมือ รวมถึงกระเป๋าทำงานด้วย ให้ผสมผสานระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่แบบลงตัว แล้วเน้นความเรียบง่ายไม่มากเกินไป ให้มีกลิ่นอายความทันสมัยอยู่ด้วย แค่นี้ก็ออกไปทำงานได้อย่างเก๋ๆ แล้ว
การแต่งตัวด้วยแฟชั่นแบบวินเทจ เป็นสไตล์ที่ช่วยให้เราสามารถมิกแอนด์แมทต์ตัวเองได้แบบไม่ซ้ำใคร รับรองว่าช่วยเติมเสน่ห์ให้กลายเป็นสาวสวยที่ดูนำเทรนด์ จนใครๆ ก็ต้องเหลือบมองด้วยความชอบใจอย่างแน่นอนทีเดียวค่ะ
ขอบคุณภาพประกอบจาก : pixabay.com
