การฉีดยาคุมกำเนิด ..ทางเลือกป้องกันการตั้งครรภ์ที่ได้ผล
ในปัจจุบันการคุมกำเนิดแบบการฉีดยานับเป็นที่นิยมในผู้หญิงมากขึ้น เพราะสะดวกสบายและหมดกังวลสำหรับสาวๆ ที่ชอบหลงลืมกินยาคุมบ่อยๆ
สำหรับยาฉีดคุมกำเนิดนั้นเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์ขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ โดยสามารถคุมกำเนิดได้ผลมากกว่า 99% เลยทีเดียว ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการใช้ยาคุมที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับยาคุมกำเนิดแบบฉีดสามารถแบ่งแยกได้เป็น 2 กลุ่มดังนี้ค่ะ
1.ยาฮอร์โมนชนิดเดียว
เป็นยาที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (progesterone) เป็นส่วนประกอบเพียงชนิดเดียว และจะต้องฉีดเข้ากล้ามเนื้อในระยะทุก 2 หรือ 3 เดือน
2.ยาฮอร์โมนรวม
เป็นยาที่มีทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (progesterone) รวมกัน ซึ่งเป็นยาที่ผลิตขึ้นเพื่อแก้ไขข้อด้อยจากการฉีดยาที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนแต่เพียงอย่างเดียว และมีระยะเวลาในการฉีดอยู่ที่ทุกๆ 1 เดือน
หากต้องการฉีดยาคุมกำเนิด ควรไปพบแพทย์เพื่อฉีดยาภายใน 5 วันแรกนับจากมีประจำเดือน โดยแพทย์จะฉีดยาเข้าที่กล้ามเนื้อต้นแขนหรือสะโพก จากนั้นในระหว่างเดือนคุณก็จะพบว่ามีประจำเดือนมาปกติ แต่หากครบเดือนแล้วประจำเดือนยังไม่มาควรรีบพบแพทย์ตามกำหนดเพื่อฉีดยา ไม่ควรรอจนกว่าจะมีประจำเดือนมา ไม่เช่นนั้นอาจเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์แบบไม่รู้ตัวก็เป็นได้
ข้อดีจากการฉีดยาคุมกำเนิด
- หมดความกังวลเวลามีเพศสัมพันธ์
- ฉีดยาคุมกำเนิดครั้งเดียวก็สามารถคุมกำเนิดได้ยาวนาน 8-12 สัปดาห์
- แม้อยู่ในระยะให้นมบุตรก็ยังสามารถฉีดยาคุมกำเนิดได้
- ช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- ช่วยลดโอกาสในการตั้งครรภ์นอกมดลูก
- สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือนได้
- ลดความเสี่ยงในการอักเสบของกระดูกเชิงกรานหรือโรคมะเร็งปากมดลูก
ผลข้างเคียงจากการฉีดยาคุมกำเนิด
- อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่ม เนื่องจากมันจะไปกระตุ้นฮอร์โมนซึ่งทำให้มีอาการอยากกินอาหารมากขึ้น
- อาจมีอาการปวดศีรษะ มึนงงและมีอารมณ์ที่แปรปรวนหงุดหงิดได้ง่าย
- มีฝ้า กระและจุดด่างดำบนใบหน้า
- มีอาการคัดตึงเต้านม
- หลังจากฉีดยาไปแล้วหลายเดือนอาจทำให้มีประจำเดือนมาไม่ปกติได้
- หลังจากฉีดยาคุมกำเนิดไปแล้วในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์แรก อาจจะมีประจำเดือนมาแบบกะปริดกะปรอย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการฉีดยาคุมกำเนิดจะเป็นทางเลือกป้องกันการตั้งครรภ์ที่สะดวก ง่ายและให้ประสิทธิภาพสูง แต่อย่างไรแล้วก็ไม่เหมาะสมกับผู้ที่ยังไม่เคยมีบุตรมาก่อน เนื่องจากผลของการฉีดจะทำให้ผนังมดลูกและกล้ามเนื้อมดลูกฝ่อได้ หากต้องการมีบุตรจึงอาจต้องใช้เวลานานหลายปีถึงจะมีได้ตามธรรมชาติ แนะนำให้คุมกำเนิดด้วยการกินยาคุมประจำทั่วไปหรือหันมาใช้ถุงยางอนามัยแทนดีกว่า
แต่สำหรับสาวๆ ที่ผ่านการมีบุตรมาแล้วก็สามารถฉีดยาคุมกำเนิดได้แบบมั่นใจหายห่วงและยังช่วยให้คุณป้องกันการตั้งครรภ์ได้ค่อนข้างสูงอีกด้วยค่ะ