อาการแพ้อาหาร ภัยเงียบใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม
อาการที่หลายคนหาสาเหตุไม่ได้ อย่างผื่นคัน ลมพิษ ปากบวม รู้สึกแสบร้อนบริเวณผิวหนัง หายใจไม่สะดวก มีตุ่มน้ำขึ้นบริเวณใดบริเวณหนึ่งของผิวหนัง ฯลฯ มักจะเกิดขึ้นจากความผิดปกติของอาการแพ้อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งพบได้บ่อยมักมาจากอาการแพ้อาหารหรือที่เรียกกันว่า food allergy
โดยพบว่าในปัจจุบันมีผู้ป่วยจากอาการเหล่านี้เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ตัว และผู้ป่วยไม่ค่อยระมัดระวังเรื่องการกิน อีกทั้งบางผลิตภัณฑ์ก็มีส่วนผสมที่ไม่ได้บอกรายละเอียดเอาไว้มากพอ จึงทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะรับเอาสารที่เกิดอาการแพ้เข้าไปได้
อาการแพ้ที่ควรสังเกตหลังรับประทานอาหาร
อาการที่มักจะบ่งชี้ได้ว่าเกิดจากอาการแพ้อาหาร สามารถพบได้หลังจากรับประทานอาหารไปแล้วเพียงไปกี่ชั่วโมงหรือแบบฉับพลันที่รับเข้าไป หากรุนแรงอาจจะทำให้เกิดภาวะหอบ หายใจติดขัด ความดันต่ำอย่างรวดเร็ว ปวดท้อง คลื่นไส้ เวียนหัว บางกลุ่มอาการอาจจะเกิดขึ้นหลังจากข้ามวันไปแล้ว อย่างตุ่มแดง ผื่นคัน ลมพิษ น้ำมูกไหล จาม คันตามขอบปาก ในตา ปวดท้องบิด ท้องเสียอย่างรุนแรง หากไม่หายเองและมีอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาโดยด่วน
อาหารที่มักจะก่อให้เกิดอาการแพ้
อาหารส่วนใหญ่ที่พบว่าจะเกิดอาการแพ้ได้ง่ายมาจากธัญพืช นมและอาหารทะเล พบได้บ่อยคือ ถั่วลิสง ถั่วเหลือง นมวัว กุ้ง ปลาหมึก ปลา ข้าวสาลี และถั่วในกลุ่มทรีนัท
ขอบคุณภาพจาก http://www.kaewsaiidea.com/
หลักการป้องกันตัวเองจากอาการแพ้อาหาร
เบื้องต้นสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองมีอาการแพ้อาหารหรือไม่ ให้โฟกัสไปที่ประวัติของคนในครอบครัว หากพบว่าพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายในบ้านมีอาการปรากฏมาก่อน ให้พึงระวังเอาไว้ว่าตัวเองอาจจะรับเอาภาวะผิดปกติเหล่านั้นมาได้ หากเกิดอาการผิดปกติเกิดขึ้น ให้ย้อนกลับไปดูว่าก่อนหน้านี้รับประทานอะไรเข้าไป เป็นเวลากี่ชั่วโมงมาแล้ว จากนั้นให้พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่คิดว่าน่าจะเป็นตัวการให้มากที่สุด เข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อตรวจหาว่าตัวเองมีอาการแพ้จริงหรือไม่
การตรวจหาอาการแพ้จากแพทย์
ในปัจจุบันจะมีการตรวจอาการแพ้จากอาหารด้วยวิธีเจาะเลือดที่ให้ผลแม่นยำกว่าในอดีต เลือดที่ได้จะถูกนำเอาไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ เรียกว่า “MicroArray” ให้ผลที่แม่นยำ รวดเร็ว ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถรู้ผลได้เพียงระยะเวลาไม่นาน
เมื่อทราบผลแล้วว่าตัวเองแพ้อาหารประเภทไหน ก็ควรหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มที่เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง ที่สำคัญอย่าลืมอ่านฉลากให้ละเอียดทุกครั้ง หากไม่มั่นใจก็ควรโทรสอบถามจากกลุ่มลูกค้าสัมพันธ์เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองค่ะ