วิ่งจ๊อกกิ้งถูกหลัก ดีต่อสุขภาพเท้าเห็นๆ แถมลดหุ่นได้เป๊ะสมใจ
การออกกำลังกายลดน้ำหนัก มีด้วยกันหลากหลายวิธี แต่วิธีที่เราจะพูดถึงนี้ก็คือ การออกกำลังกายลดน้ำหนักด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้งนั่นเอง หลายคนอาจวิ่งผิดๆ มาโดยตลอด วันนี้ท่าวิ่งอย่างถูกต้องควรปฏิบัติอย่างไร เพื่อดูแลสุขภาพเข่าและเท้าไปพร้อมๆ กัน แถมยังดีต่อหุ่นสวยอีกด้วย ว่าแล้วอย่ารอช้า สาวๆ มาติดตามพร้อมกันเลยค่ะ
1.เริ่มจากอบอุ่นร่างกายด้วยการวิ่งเหยาะๆ และควรใช้ความเร็วน้อยกว่าที่วิ่งจริง พร้อมกันนี้ ควรยืดเหยียดกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ ของร่างกายร่วมด้วย สำหรับระยะเวลาของการอบอุ่นร่างกายจะอยู่ที่ประมาณ 4-5 นาที แล้วจึงสามารถวิ่งออกกำลังกายตามปกติได้ค่ะ
ขอบคุณภาพประกอบจาก : pexels.com
2.ขณะที่เราวิ่งจ๊อกกิ้ง ควรปล่อยให้ส้นเท้าได้สัมผัสกับพื้นก่อนจะลงไปทั้งฝ่าเท้า และทันทีที่ปลายเท้าหมุนลงมาแตะกับพื้น ส้นเท้าก็จะเปิดขึ้น ปลายเท้าจะมีลักษณะเหมือนตะกุยดิน หรือถีบตัวคล้ายสปริงที่ดีดตัวขึ้นข้างบนพร้อมกับเคลื่อนตัวไปยังข้างหน้า และจุดที่ปลายเท้าสัมผัสพื้นนั้นก็ควรจะมีระดับตรงกับหัวเข่าซึ่งสาวๆ ควรงอเข่าเล็กน้อย อีกทั้งเท้าก็ควรสัมผัสกับพื้นหลังจากเหยียดออกไปข้างหน้า การวิ่งในลักษณะดังกล่าวนี้เป็นการวิ่งจ๊อกกิ้งที่ถูกต้อง เพื่อช่วยดูแลสุขภาพเข่าและข้อเท้าไม่ให้บาดเจ็บหรือเสื่อมเร็วนั่นเอง
3.ควรวิ่งจ๊อกกิ้งโดยให้แผ่นหลังยืดตรงและเป็นไปอย่างธรรมชาติมากที่สุด โดยศีรษะต้องตรง ตามองตรงไปทางข้างหน้า สำหรับส่วนต่างๆ ตั้งแต่จากศีรษะลงมาจนถึงหัวไหล่และสะโพกจนถึงพื้นก็ควรเป็นเส้นตรงด้วยเช่นเดียวกัน ลำตัวไม่ควรปล่อยให้โน้มไปข้างหน้าหรือเอนไปทางด้านหลัง
4.สำหรับแขนนั้นควรเคลื่อนไหวให้เป็นไปอย่างมีจังหวะและเกิดการทรงตัวในการวิ่งอย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้น ในขณะที่เราวิ่งแขนก็ควรปล่อยให้แกว่งไปมาเหมือนลูกตุ้มของนาฬิกา และพยายามอย่าปล่อยให้ข้อศอกงอเข้ามาแคบเกินกว่า 90 องศา หัวแม่โป้งนิ้วก็ควรปล่อยไว้บนนิ้วชี้อย่างสบายๆ ธรรมดา และควรกำนิ้วมือเพียงหลวมๆ ข้อมือไม่ต้องเกร็ง ในบางครั้งคุณอาจเหยียดแขนตรงลงมา หรือจะเขย่าแขนบ้างเพื่อให้เกิดการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หลังจากที่ยกแขนไว้เป็นเวลานานในระหว่างการวิ่ง
5.ในเรื่องของการหายใจ ควรหายใจเข้าทางจมูกและปล่อยลมหายใจออกพร้อมๆ กันทั้งจากทางจมูกและทางปาก โดยการหายใจ คุณควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ให้พยายามหายใจด้วยท้อง โดยการสูดหายใจเข้าไปในปอดจนรู้สึกว่าท้องมีการขยายตัวและควรบังคับการปล่อยลมให้ออกมาโดยการแขม่วท้องค่ะ ทั้งนี้ เนื่องจากการหายใจแบบผิดวิธีอาจมีผลทำให้มีอาการจุกเสียดในขณะวิ่งออกกำลังกายได้นั่นเอง
6.หลังจากวิ่งออกกำลังกายเสร็จแล้ว ควรอบอุ่นร่างกายหลังจากวิ่งทุกครั้ง เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อและปรับจังหวะการเต้นของหัวใจให้เป็นไปอย่างคงที่
สำหรับใครที่ต้องการลดน้ำหนักด้วยการวิ่งออกกำลังกายเป็นประจำ แม้ว่าท่าวิ่งที่ถูกต้องจากคำแนะนำจะให้คุณเอาส้นทางแตะพื้นก่อน หากก็ใช่ว่าเราจะสามารถถ่ายน้ำหนักตัวลงไปที่เท้าแบบเน้นๆ ได้เต็มที่ แต่เป็นการจัดท่าทางเท้าให้เป็นไปเพื่อช่วยลดแรงกระแทกไม่ให้เกิดความรุนแรงจนนำมาซึ่งความเจ็บปวดเท่านั้น เพราะเมื่อส้นเท้าของเราแตะลงพื้นไปแล้ว แน่นอนว่าฝ้าเท้าทั้งหมดจะต้องสัมผัสพื้นลงตามทันที ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยรองรับแรงกระแทกในระหว่างน้ำหนักตัวคุณกับพื้นดินด้วยนั่นเอง
เพราะฉะนั้น สาวๆ คนไหนที่สนใจลดน้ำหนักด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้งล่ะก็ หากยังคงวิ่งแบบผิดวิธีมาตลอด จากนี้ไปก็ต้องหันมาปรับท่าทางในการวิ่งให้ถูกต้องด่วน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและเพื่อเป็นการช่วยถนอมสุขภาพเข่ารวมถึงข้อเท้าด้วย
