5 วิธีแก้อาการแพ้ท้องในคุณแม่ให้ดีขึ้น
ผู้หญิงเราเมื่อตั้งครรภ์ไปแล้วก็ย่อมนำความดีใจปลาบปลื้มมาสู่ทุกคนในครอบครัว ทว่าในระหว่างที่ตั้งครรภ์อ่อนๆ หากคุณแม่เกิดอาการแพ้ท้องอย่างหนักก็อาจจะมีเหนื่อยล้าและท้อใจกันบ้าง แต่การแพ้ท้องนี้ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าลูกน้อยในครรภ์ปลอดภัยและแข็งแรงนั่นเอง แม้คุณแม่จะแพ้หนักแค่ไหนก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้น เราก็สามารถบรรเทาอาการแพ้ให้ทุเลาขึ้นได้ด้วย 5 วิธีดังนี้ค่ะ
1. กินน้อยแต่บ่อยครั้ง
ให้ทานอาหารในปริมาณน้อยๆ เข้าไว้ แต่เน้นทานให้ได้หลายครั้งค่ะ เพื่อให้มีอาหารตกถึงท้องบ้าง อาหารที่แนะนำให้คุณแม่ทานก็คือ ผักผลไม้สดและอาหารที่ให้คาร์โบไฮเดรตสูง เพื่อป้องกันภาวะร่างกายอ่อนเพลียจนเกินไป เช่น ขนมปังโฮลวีท ขนมปังกรอบหรือข้าวกล้อง เป็นต้น
2. ดื่มน้ำให้สมดุลกับตอนทานข้าว
ในขณะที่ทานข้าวไม่ควรดื่มน้ำพร้อมกันมาก อาจจะจิบๆ น้ำให้พอหายหิวและควรดื่มน้ำหลังจากทานอาหารเสร็จแล้วเท่านั้น หลีกเลี่ยงการดื่มก่อนอาหารมากจนเกินไปเพราะจะยิ่งทำให้รู้สึกพะอืดพะอมจนคลื่นไส้ได้ แม้แต่ขณะนั่งทานข้าวก็ไม่ควรทานข้าวคำดื่มน้ำคำไปด้วย เพราะมันสามารถกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ท้องได้เช่นเดียวกัน
3. ควรทานอาหารเบาๆ ก่อนนอนบ้าง
ก่อนเข้านอนอย่าปล่อยให้ท้องว่างจนเกินไปค่ะ แนะนำให้พยายามหาทานอาหารเบาๆ รองท้องไว้สักเล็กน้อย เช่น โยเกิร์ต ขนมปังหรือแซนวิสหรือนมอุ่นๆ สักแก้วก็ได้ เพื่อจะได้ป้องกันอาการแพ้ท้องที่มักจะเกิดขึ้นในตอนเช้าหลังจากตื่นนอน และในขณะที่ตื่นนอนตอนเช้าควรเตรียมขนมปังกรอบอย่างแครกเกอร์เอาไว้บนหัวเตียง เมื่อลุกตื่นแล้วก็ให้ทานขนมปังสักเล็กน้อย จากนั้นจึงนอนต่ออย่างผ่อนคลายเพลินๆ สัก 5-10 นาที เพื่อให้ร่างกายปรับสมดุลจากนั้นจึงลุกขึ้นไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัวของคุณแม่ต่อไป วิธีนี้จะช่วยบรรเทาและแก้อาการแพ้ท้องในตอนเช้าได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
4. อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
อาหารที่แม่ท้องซึ่งมีอาการแพ้อยู่ควรหลีกเลี่ยงรับประทานก็คือ อาหารที่มีเครื่องเทศต่างๆ เช่น แกงกะหรี่ อาหารทอดๆ หรืออาหารที่ให้ความเป็นกรดสูง เนื่องจากกระเพาะอาหารค่อนข้างย่อยยากค่ะ
5. ทานอาหารแก้แพ้
ควรทานขิงในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นน้ำขิง ชาขิงหรือขิงในรูปแบบแคปซูลและแม้แต่ขนมปังขิง เนื่องจากขิงมีสรรพคุณช่วยกำราบอาการแพ้ท้องได้ดี และสำหรับเครื่องดื่มหรืออาหารที่มีรสเปรี้ยว แนะนำให้ทานมะนาวโดยฝานมะนาวเป็นแผ่นบางผสมลงในน้ำเปล่าดื่มเย็นๆ หรือผสมกับน้ำชาแล้วดื่มก็ช่วยบรรเทาอาการแพ้ระหว่างวันได้แล้วเช่นเดียวกัน อีกทั้งการทานอาหารหากได้กลิ่นอาหารร้อนๆ แล้วรู้สึกคลื่นไส้อยากอาเจียน ถ้าเช่นนั้น ลองหันมาทานอาหารเย็นๆ แทนก็อาจจะดีขึ้นได้
ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าพฤติกรรมใดๆ ที่คุณแม่ทำแล้วส่งผลให้มีการกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ท้องหนักขึ้น ลองเฝ้าสังเกตพฤติกรรมเหล่านั้น เช่น การดื่มน้ำมาก การแปรงฟันหลังอาหารแล้วคลื่นไส้ เป็นต้น ก็จงหลีกเลี่ยงการทำสิ่งนั้นๆ หรือหาจังหวะที่ร่างกายผ่อนคลายแล้วค่อยลงมือทำ ที่สำคัญในขณะที่คุณแม่แพ้ท้องหนักแบบนี้ กำลังใจจากคนรอบข้างอย่างสามีเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากคุณได้รับกำลังใจหรือการปลอบโยนที่ดีจากคนรัก รับรองว่าจะสามารถบรรเทาอาการแพ้ท้องได้ดีชะงัดเลยล่ะค่ะ