น่ารู้! กินยาคุมกำเนิด แต่ประจำเดือนไม่มา เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่?

น่ารู้! กินยาคุมกำเนิด แต่ประจำเดือนไม่มา เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่?

น่ารู้! กินยาคุมกำเนิด แต่ประจำเดือนไม่มา เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การกินยาคุมกำเนิด ย่อมช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีเสมอ หากแต่โอกาสในการเสี่ยงตั้งครรภ์ก็มีเช่นกัน หากสาวๆ กินแบบผิดๆ หรือกินไม่สม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่กินยาคุมกำเนิดแล้วพบปัญหาประจำเดือนไม่มาและกลัวการตั้งท้อง วันนี้เรามาดูกันนะคะว่าสาเหตุใดที่ทำให้ประจำเดือนขาดไปบ้าง แม้จะกินยาคุมแล้วก็ตาม มาดูกันเลยค่ะ

ผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุม

การกินยาคุมกำเนิดบางยี่ห้อก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้ เช่น ทำให้ประจำเดือนขาดหายไปประมาณ 3-4 เดือน โดยเฉพาะในสาวๆ ที่มีประจำเดือนมาน้อยหรือมาแบบไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆ หากกินยาคุมกำเนิดแล้วพบว่าประจำเดือนไม่มา ตลอดจนทดสอบการตั้งครรภ์แล้วก็พบว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ ก็สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีการคุมกำเนิดแบบใหม่ที่เหมาะสมกับร่างกายของคุณจะดีที่สุด หรืออาจปรึกษากับทางเภสัชกรเพื่อกินยาคุมกำเนิดตัวใหม่ที่เหมาะสมกับร่างกายมากกว่า

น่ารู้! กินยาคุมกำเนิด แต่ประจำเดือนไม่มา เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่?
น่ารู้! กินยาคุมกำเนิด แต่ประจำเดือนไม่มา เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่?

ผลจากการใช้ยาบางชนิดที่ต้านการออกฤทธิ์ของยาคุมกำเนิด

การใช้ยาบางชนิดเพื่อรักษาโรคอื่นๆ ที่เป็นอยู่ก็อาจมีผลกับการออกฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดได้เช่นกันค่ะ เช่น การกินยากันชักหรือยาสำหรับใช้รักษาวัณโรค หากคุณกินยาเหล่านี้ไปพร้อมๆ กับการกินยาคุมกำเนิดด้วย ก็มีแนวโน้มเป็นไปได้เช่นกันว่าฤทธิ์จากยาคุมกำเนิดจะมีประสิทธิภาพต่ำลง จนส่งผลให้ฮอร์โมนมีระดับแปรปรวนและอาจทำให้ประจำเดือนขาดไป นอกจากนี้ สาวๆ ยังมีโอกาสเสี่ยงตั้งครรภ์สูงอีกด้วยนะคะ เพราะฉะนั้น แนะนำให้รออีกสักเดือนเพื่อดูว่าประจำเดือนมาหรือไม่ หากประจำเดือนยังไม่มาก็สามารถซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาเทสต์การตั้งครรภ์ดูได้เลยค่ะ

เป็นช่วงที่ร่างกายจะต้องปรับฮอร์โมนให้เข้าที่

สำหรับสาวๆ ที่เพิ่งกินยาคุมกำเนิดใหม่ๆ มักจะมีอาการประจำเดือนขาดเช่นกันค่ะ เพราะร่างกายของผู้หญิงบางคนอาจจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการปรับสมดุลฮอร์โมนให้เข้าที่สักระยะ โดยอาจใช้เวลายาวนานจนถึงช่วงกินยาคุมกำเนิดแบบต่อเนื่องจนถึงแผงที่ 2-3 เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ไม่ได้หมายความว่ายาคุมกำเนิดจะไม่ถูกกับร่างกายคนเราหรอกนะคะ หากแต่เป็นเพราะระดับฮอร์โมนในร่างกายต่างหากที่มักเกิดความแปรปรวน เพราะฉะนั้น หากมั่นใจว่ากินยาคุมกำเนิดอย่างถูกต้อง ก็ควรปล่อยตัวตามสบาย เพื่อรอให้ร่างกายทำการปรับฮอร์โมนให้เข้าที่ประมาณ 2-3 เดือน แต่หลังผ่านพ้นระยะเวลาดังกล่าวไปแล้วพบว่าประจำเดือนยังไม่มา ก็ค่อยไปปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอย่างถูกต้องต่อไป

น่ารู้! กินยาคุมกำเนิด แต่ประจำเดือนไม่มา เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่?
น่ารู้! กินยาคุมกำเนิด แต่ประจำเดือนไม่มา เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่?

ความเครียด

เมื่อไรที่เราเครียด ย่อมส่งผลต่ออารมณ์และการผลิตฮอร์โมนอย่างโดยตรงทีเดียว เพราะความเครียดจะทำให้การตกไข่และการมาของรอบเดือนผิดปกติไปด้วย แม้ว่าคุณจะกินยาคุมกำเนิดอย่างสม่ำเสมอก็ตาม

ผลข้างเคียงจากการเกิดโรคบางอย่าง

แม้กินยาคุมกำเนิดอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ อีกทั้งนอกจากความเครียดที่เล่นงานจนประจำเดือนขาดแล้ว ผลข้างเคียงจากการเกิดโรคบางอย่างก็เป็นเหตุทำให้ประจำเดือนขาดไปได้เช่นเดียวกัน เช่น โรคเนื้องอกในต่อมใต้สมอง ไทรอยด์ โรคเครียด โรคไต ถุงน้ำในรังไข่หรือโรคซิสติกไฟโบรซิส (cystic fibrosis) เพราะมีผลการศึกษาจาก Michigan's Health Center ที่ได้บอกไว้ว่า อาการของโรคเหล่านี้อาจมีผลทำให้ประจำเดือนไม่มา เพราะฉะนั้น หากสาวๆ พบว่าประจำเดือนไม่มาเป็นเวลาถึง 2 เดือนหรือยาวนานกว่านั้น แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเช็กร่างกายโดยละเอียดจะดีกว่า

การกินยาคุมกำเนิดก็มาพร้อมผลข้างเคียงหลายอย่าง หลักๆ ก็คือ ประจำเดือนมาแบบกะปริดกะปรอยหรือประจำเดือนขาด สำหรับสาวๆ คนไหนที่ไม่สบายใจ หากพบว่าประจำเดือนขาดไปจนถึงเดือนที่ 2 หรือมากกว่านั้น และหากทดสอบการตั้งครรภ์แล้วพบว่าไม่ได้ตั้งท้อง รีบไปตรวจเช็กร่างกายกับคุณหมอโดยเร็วจะดีที่สุดค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook