ดื่มชาให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรดื่มเวลาไหนดีนะ?
การกินอาหารเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดเราจะต้องกินตอนท้องว่างและกินเป็นเวลาทุกวัน โดยเฉพาะอาหารมื้อเช้าซึ่งเป็นมื้ออาหารสำคัญที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด และนอกจากอาหารแล้ว เรายังมีเครื่องดื่มบางชนิดที่หากดื่มถูกจังหวะเวลาก็ย่อมทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกายเราได้ด้วย นั่นก็คือ การดื่มชานั่นเอง
ในวันนี้เราจะมาแนะนำช่วงเวลาอันเหมาะสมกับการดื่มชาเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดกับร่างกาย เรียกว่าจัดมาเอาใจคนรักการจิบชาร้อนๆ เพื่อสุขภาพโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นชาเขียวหรือชาร้อนๆ ชนิดใดก็ตาม หากพร้อมแล้ว เรามาติดตามไปพร้อมกันเลยค่ะ
ดื่มชาทันทีที่เพิ่งชงเสร็จร้อนๆ ดีที่สุด
เนื่องจากใบชานั้นมีสารอาหารทางชีวภาพรวมแล้วมากกว่า 200 ชนิด และยังมีสารสำคัญอย่างคาเทชิน (Catechin) ซึ่งสารดังกล่าวเป็นสารที่มีฤทธิ์ช่วยดักจับอนุมูลอิสระ ทั้งยังมีสารธีอะนิน (Theanine) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ทำงานสัมพันธ์กันกับเส้นประสาท เมื่อดื่มไปแล้วเราจึงรู้สึกผ่อนคลาย สงบนิ่งและสมองปลอดโปร่งมากขึ้น
ร่างกายดูดซึมสารอาหารน้อยลงหากปล่อยน้ำชาไว้ให้เย็น
แนะนำให้ชงแบบร้อนแล้วรีบดื่มให้หมดทันที ไม่ควรปล่อยไว้ให้เย็นค่ะ เพราะการดื่มแบบชงร้อนจะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากสารอาหารในชามากกว่าการชงดื่มแบบเย็นนั่นเอง และหลังจากชงร้อนๆ แล้วไม่ควรปล่อยไว้นานเกินกว่า 2 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้น สารคาเทชินจะดักจับและเกิดการรวมตัวกับออกซิเจนโดยจะทำให้สีของน้ำชาคล้ำลง รสชาติฝาดอย่างชัดเจน เนื่องจากมีกรดแทนนินสูง (Tannin) หากคุณดื่มตอนที่มีรสฝาดแล้วก็จะส่งผลกระทบมายังกระเพาะอาหารและลำไส้ กล่าวคือ มันจะทำให้การดูดซึมสารอาหารเป็นไปอย่างด้อยประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการดูดซึมธาตุเหล็ก แคลเซียมและแมกนีเซียมนั่นเอง
ดื่มชาหลังกินอาหาร 2-3 ชั่วโมง กระตุ้นการย่อยอาหารได้ดี
แนะนำให้ดื่มชาแก่หลังจากกินอาหารไปแล้ว 2-3 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นให้น้ำย่อยหลั่งออกมาภายในกระเพาะอาหารมากอย่างเพียงพอ ก็จะทำให้การย่อยอาหารจำพวกวิตามินต่างๆ เป็นไปดีขึ้น แต่สำหรับคนที่ชอบจิบชาแทนน้ำเปล่าและคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบควรหันมาจิบน้ำชาอ่อนจะดีกว่า ไม่เช่นนั้น หากจิบชาแก่จะยิ่งทำให้การหลั่นกรดออกมามากขึ้น ทำให้เกิดการระคายเคืองภายในกระเพาะอาหารได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับช่วงเวลาอันเหมาะสมในการดื่มน้ำชา รวมถึงใครที่นิยมชมชอบจิบชาแทนน้ำเปล่าเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อได้ทราบแบบนี้แล้วก็จะยิ่งทำให้คุณจิบอย่างระมัดระวังมากขึ้น
โดยเฉพาะการจิบชาอ่อนชาแก่ที่จะกระตุ้นการหลั่งกรดมากน้อยต่างกัน จะได้ไม่ยิ่งทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารหนักมากขึ้นไปกว่าเดิม และจะได้ทำให้การดูดซึมสารอาหารเป็นไปได้ดีอีกด้วย อย่างไรก็ตาม อย่าลืมนำสาระดีๆ เหล่านี้ไปใช้กับการดื่มชาทุกๆ วันนะเออ