“มะนาวโซดา” ความเชื่อการลดความอ้วนที่มาพร้อมความเสี่ยงต่อสุขภาพ

เราเคยได้ยินมาว่ามะนาวลดน้ำหนักได้ เหตุผลที่คนเชื่อเช่นนี้เป็นสิ่งที่สร้างความกังวลใจให้กับการแพทย์ในยุคนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในโลกโซเชี่ยลมีเดีย ที่มีทั้งการแชร์สูตรมะนาวลดน้ำหนักด้วยการผสมกับน้ำผึ้งแบบเข้มข้น ชงดื่มกันตลอดทั้งวัน ตามหลักความเป็นจริงที่น้ำผึ้งอุดมไปด้วยน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวในปริมาณสูง เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะสามารถเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงได้ในทันที

และหากกินเข้าไปในปริมาณมาก ย่อมส่งผลให้ร่างกายเสียสมดุล น้ำตาลในร่างกายเพิ่มขึ้นเกินกว่าที่ต้องการ ส่วนความเปรี้ยวของมะนาวที่ผสมอยู่ด้วยนั้น ก็แทบจะไม่มีผลช่วยลดน้ำหนักใดๆ เลยทั้งสิ้น นอกจากนี้เรายังพบความเชื่อในการดื่มน้ำมะนาวผสมโซดาก่อนอาหารเพื่อช่วยทำให้รู้สึกอิ่ม กระตุ้นระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย สูตรนี้หากใครกำลังทำอยู่ สาวๆ รู้หรือไม่ว่ากำลังเสี่ยงกับอันตรายที่ไม่รู้ตัว ชนิดที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง เพราะน้ำมะนาวและโซดาต่างมีความเป็นกรดไม่แพ้กันเลยล่ะค่ะ

พิจารณาก่อนเชื่อ น้ำมะนาว+โซดา ลดน้ำหนักไม่ได้อย่างที่คิด !

มาวิเคราะห์กันแบบง่ายๆ ดีกว่าค่ะกับสูตรมะนาวลดน้ำหนัก ที่ใช้ส่วนผสมของโซดาเข้ามาเกี่ยวข้อง บางคนก็อาจจะผสมเกลือลงไปสักเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ หรือทำให้มันดูเหมือนสูตรที่น่าอัศจรรย์ยิ่งขึ้น แถมยังเชื่อกันอีกว่าสูตรนี้เป็นตัวช่วยป้องกันมะเร็ง ทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่ใช่สิ่งที่เป็นจริงเลยสักนิดเดียว

การดื่มน้ำมะนาวผสมกับโซดาที่มีความเข้มข้นของกรดสูง จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก เพราะมันไปเพิ่มปริมาณกรดให้มากขึ้นกว่าเดิมในกระเพาะอาหาร การดื่มซึ่งบอกต่อๆ กันว่าให้ดื่มหลังตื่นนอนตอนเช้าทันที หรือดื่มก่อนรับประทานอาหาร เพื่อจะได้ช่วยดักจับไขมันไม่ให้เข้าไปสะสมในร่างกาย คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคกระเพาะ เสี่ยงที่จะไปกระตุ้นอาการให้หนักมากขึ้น กลายเป็นแผลที่กระเพาะอาหาร บางคนมีสุขภาพที่ปกติดี แต่ลองสูตรนี้เข้าไป ก็กลายเป็นผู้ป่วยโรคกระเพาะไปโดยปริยาย

ผู้ป่วยหลายรายเข้าพบแพทย์ด้วยอาการที่น่าเป็นห่วง นั่นก็คือ อุจจาระเป็นเลือดและอาเจียนเป็นเลือดโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่เมื่อซักถามประวัติแล้ว กลับพบว่าเกิดจากความเชื่อในการดื่มน้ำมะนาวลดน้ำหนักสูตรนี้กันเข้าไป จนทำให้กระเพาะเป็นแผลอย่างรุนแรง หากปล่อยไว้นานก็อาจจะทำให้กระเพาะทะลุ เป็นอันตรายถึงชีวิตกันได้เลยทีเดียว

ขอบคุณภาพประกอบจาก : pixabay.com