อายุยืนง่ายๆ ด้วยการกินอาหารรสจืด
ในยุคปัจจุบันนี้มนุษย์เริ่มมีพฤติกรรมการกินที่ขาดความพอดี เช่น กินมากเกิน กินรสจัดเกินไป เค็มเกิน หวานเกิน เผ็ดเกิน ไม่ออกกำลังกาย ไม่กินผักผลไม้ ทำให้ในปัจจุบันสถิติของผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง และมะเร็งเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัว หนึ่งในสาเหตุหลักที่ไม่น่าเชื่อว่าจะก่อให้เกิดโรคร้ายแรงดังกล่าวได้ คือ การทานอาหารรสจัดเกินไปทำให้ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารบางตัวมากเกินไปเช่น น้ำตาล โซเดียม เป็นต้น
อาหารส่วนมากที่คนยุคนี้บริโภคมักมีรสเค็มและหวานและรับประทานมากกว่าที่ร่างกายต้องการต่อวัน ทั้งที่คนเราไม่ควรกินโซเดียมเกิน 2,400 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับเกลือประมาณ 1 ช้อนชา หรือน้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะเท่านั้น แต่จากค่าเฉลี่ยในปัจจุบันคนเรากินโซเดียมมากกว่า 4,300 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแหล่งที่มาของโซเดียมนอกจากเกลือแล้ว ยังอยู่ในน้ำปลา ซีอิ๊ว ผงชูรส ผักดอง ไข่เค็ม ไส้กรอก หมูยอ ขนมขบเคี้ยว ขนมปัง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งเราสามารถดูปริมาณโซเดียมในอาหารได้จากฉลากข้างบรรจุภัณฑ์
เทคนิคลดการกินอาหารรสจัด
เทคนิคที่ว่าคือ ชิมก่อนปรุง บวกกับการลดการปรุงลง จากที่เคยเติมน้ำปลา 2 ช้อนก็ลดลงเหลือ 1 ช้อน การที่เราค่อยๆ ลดปริมาณเครื่องปรุงลงทำให้เราเริ่มคุ้นชินกับอาหารที่เริ่มจืดได้อย่างไม่ยาก นอกจากนี้ยังควรลดการกินอาหารแปรรูปต่างๆ เช่น อาหารกึ่งสำเร็จรูป หรือหากรับประทานก็ไม่ควรใส่เครื่องปรุงหมดซอง ลดปริมาณน้ำจิ้มที่มาคู่กับของทอด สุกี้ หมูกระทะ หอยทอด เฟรนช์ฟรายเพราะในน้ำจิ้มมีปริมาณโซเดียมและผงชูรสสูง
และก่อนซื้ออาหารสำเร็จรูปควรอ่านฉลากก่อนซื้อทุกครั้ง โดยผู้ที่มีปัญหาเรื่องโรคความดันโลหิตสูง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีโซเดียมต่ำนั่นคือไม่เกิน 140 มิลลิกรัม หรือ 5%RDI ทางที่ดีควรหัดเข้าครัวปรุงอาหารรสจืดทานเองดีที่สุด โดยเฉพาะมื้อเช้าซึ่งถือเป็นมื้อที่สำคัญมาก หากคุณไม่มีเวลาเตรียมอาหารเช้าทานเอง แนะนำอาหารทานง่าย ทำง่ายและใช้เวลาไม่นานอย่างซีเรียลโฮลเกรน หรือธัญพืชชนิดเต็มเมล็ดอบกรอบ ทานคู่กับนมรสจืดไขมันต่ำ ได้คุณค่าและยังคงรสชาติที่เป็นกลางเอาไว้เพื่อสมดุลที่ดีในร่างกาย
การทานอาหารรสเผ็ด
เป็นอีกหนึ่งในอาหารรสจัดที่มักถูกเข้าใจว่าอาหารรสเผ็ดสามารถช่วยบริหารกระเพาะได้ มันไม่เป็นความจริงค่ะ ในตรงกันข้ามการทานอาหารรสเผ็ดจัดอาจทำให้เกิดอาการเหมือนคนเป็นโรคกระเพาะอาหารได้ เพราะสารในพริกซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดจะไปทำให้หลอดอาหารหดเกร็ง เกิดอาการจุกแน่นลิ้นปี่ได้ แต่หากทานเผ็ดแต่น้อยจะช่วยให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขที่ชื่อสารเอ็นโดรฟินออกมาได้เป็นอย่างดีทั้งยังช่วยในการเผาผลาญอีกด้วย ทั้งนี้และทั้งนั้นควรฝึกนิสัยทานจืดไว้เป็นนิสัยช่วยให้คุณถอยห่างจากโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไต ได้อย่างง่ายๆไม่มากก็น้อย
ในการกินอาหารรสจืดที่ว่ามานี้ไม่ได้หมายถึงว่าเราจะไม่สามารถรับประทานอาหารรสอื่นได้เลยนอกจากรสจืดนะค่ะ แต่หมายถึงเราควรจะกินอาหารที่มีรสในปริมาณที่พอเหมาะเท่าที่ร่างกายต้องการ ไม่ใช่การงดไปเลย แต่เราก็สามารถให้รางวัลแก่ตัวเองโดยนานๆทีครั้งที่เราจะกินอาหารรสจัดก็ได้นะค่ะ นานๆ ครั้งไม่มีปัญหากับร่างกายแต่อย่างไรค่ะ