ส้มตำ อาหารเพื่อสุขภาพจริงหรือ
เมนูโปรดอย่าง ส้มตำ เป็นอาหารที่สาวๆ ส่วนใหญ่ใช้เป็นเมนูลดความอ้วน ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะเป็นอาหารที่มีไขมันน้อยและพลังงานต่ำ มีใยอาหารค่อนข้างสูง ส้มตำในหนึ่งจานจะมีส่วนผสมของผักที่เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด
อย่างเช่น มะละกอ กระเทียม มะเขือเทศ พริกขี้หนู และถั่วฝักยาว ซึ่งแต่ละอย่างนั้นจะมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายได้ โดยช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ถึงแม้ว่าส้มตำจะมีรสชาติที่จัดจ้าน ทั้งเปรี้ยว เผ็ด เค็ม และมีรสหวานนิดหน่อย ซึ่งถือว่าอร่อยถูกปากคนไทยแทบทุกคน แต่การบริโภคส้มตำเพียงอย่างเดียวนั้นจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ดังนั้นจึงต้องกินอาหารอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย นั่นก็คือ ข้าวเหนียว ขนมจีน เส้นหมี่ ไก่ย่าง หมูย่าง หรือน้ำตกหมู ลาบต่างๆ ซึ่งให้สารอาหารที่ครบถ้วน ทั้งคาร์โบไฮเดรต และโปรตีน แต่เมื่อถามถึงความสะอาดถูกหลักอนามัยนั้น เมนูส้มตำก็เป็นหนึ่งในอาหารที่อยู่ในข่ายที่ต้องควบคุมดูแลด้วยเหมือนกัน
ส้มตำเป็นอาหารสด ที่ไม่ผ่านความร้อน เรื่องของความสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมาก หากมีสารปนเปื้อน หรือไม่สะอาดก็อาจจะทำให้คุณท้องเสียได้ค่ะ ส่วนเครื่องปรุงต่างๆ ของส้มตำนั้น ต้องคอยสังเกตเชื้อ อะฟลาทอกซิน หรือเชื้อราที่อาจปะปนอยู่ในถั่วลิสง กระเทียม กุ้งแห้ง เชื้ออะฟลาทอกซินนี้มีโทษร้ายแรงต่อตับ การเลือกรับประทานควรสังเกตถึงความสะอาดด้านสุขอนามัยของร้าน ด้านสิ่งแวดล้อมบริเวณโดยรอบของร้านด้วยก็ยิ่งปลอดภัยนะคะ ส่วนปลาร้าที่ใส่ในส้มตำนั้น มีหลายคนสงสัยว่า จะกินปลาร้าสุกหรือดิบ จึงจะดี ถ้าสามารถเลือกได้ก็ควรเลือกเป็นปลาร้าแบบสุกจะดีกว่าค่ะ หรือจะเป็นปูเค็ม ก็เหมือนกันค่ะ ควรจะกินแบบสุกเหมือนกันดีกว่า และควรสังเกตความสะอาดของปูและภาชนะที่บรรจุด้วยนะคะ มีหลายคนสงสัยว่ากินส้มตำบ่อยๆ จะดีหรือไม่นั้น แน่นอนค่ะว่า ส้มตำไม่ใช่อาหารที่ดีมีประโยชน์เสมอไป
ดังนั้น เราจึงไม่ควรรับประทานบ่อยมากจนเกินไป ควรสลับกับการรับประทานอาหารประเภทอื่นๆ บ้างค่ะ ส้มตำนี้ควรทานประมาณสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก็พอแล้วค่ะ ส่วนส้มตำที่มีส่วนผสมของปลาร้า ปูดอง หรือหอยดอง ก็ให้ทานอาทิตย์ละครั้งค่ะ แต่ถ้าทานมากกว่านั้นก็ควรเป็นแบบที่สุกจะดีกว่าค่ะ ผู้ที่มีโรคประจำตัว อย่าง โรคเบาหวาน ความดันโลหิต โรคไต และโรคหัวใจ ก็สามารถทานได้ค่ะแต่อย่าทานบ่อยนัก ไม่ควรทานรสจัดมากเกินไป เพราะส้มตำจะมีโซเดียมสูง ไม่ควรทานรสเค็มจัด และต้องห้ามใส่ผลชูรส เพราะในชูรสจะมีโซเดียมสูงมากค่ะ
ก่อนทานทุกครั้งไม่ควรปล่อยให้ท้องว่าง ควรทานข้าวเหนียว ไก่ย่าง หรืออาหารประเภทอื่นเพื่อรองท้องก่อนค่ะ เพราะในมะละกอจะมียาง ที่เป็นเอนไซม์ทำให้เนื้อสัตว์เปื่อยนุ่ม หากทานขณะท้องว่างจะทำให้ปวดท้องได้ค่ะ