5 สาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงหัวล้าน รู้แล้วควรเลี่ยง!

รู้ไหมว่าผู้หญิงเราผมร่วงบ่อย ก็อาจทำให้หัวล้านได้เหมือนกัน แน่นอนว่าคุณก็คงไม่อยากกลายเป็นผู้หญิงที่หัวล้านหรอกจริงไหม เพราะฉะนั้นเรามาดูสาเหตุที่ทำให้หัวล้านกันดีกว่า เพื่อจะได้ป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่นๆ นั่นเอง ว่าแต่จะมีสาเหตุอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย

1.มัดผมตึงเป๊ะบ่อยๆ

เพราะการมัดผมตึงหรือถักเปียบ่อยๆ จะทำให้เส้นผมไม่สามารถลำเลียงสารอาหารไปเลี้ยงรากและปลายผมได้อย่างเพียงพอ เป็นผลให้ผมอ่อนแอและบอบบางลง จนหลุดร่วงได้ง่าย และหัวล้านในที่สุด เพราะฉะนั้นหากคุณไม่อยากหัวล้านล่ะก็ ควรมัดผมให้น้อยลงหรือพยายามมัดไม่ให้แน่นจนเกินไป แค่นี้เส้นผมก็ไม่ถูกทำร้ายแล้ว

2.ติดเชื้อราบนหนังศีรษะ

เชื้อราบนหนังศีรษะ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุหัวล้าน ที่ผู้หญิงควรระวังเป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้เส้นผมหลุดร่วงจนหัวล้านเท่านั้น แต่ยังเป็นอะไรที่น่ายี้มากอีกด้วย ลองนึกถึงเวลาที่เราเป็นเชื้อราที่ผิวหนังบริเวณแขนขาดูสิ ว่ามันดูแย่ขนาดไหน เมื่อเป็นเชื้อราที่หนังศีรษะก็แย่ไม่แพ้กันเลย

3.เครียดจัด

เมื่อมีความเครียด จะส่งผลกระทบต่อฮอร์โมน ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ และเป็นผลให้ผมร่วงจนหัวล้านได้ในที่สุด อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อสุขภาพในหลายๆ ด้านอีกด้วย ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้หัวล้าน ควรลดความเครียดลง ด้วยการปล่อยวางและและทำกิจกรรมเพื่อการผ่อนคลายบ่อยๆ ความเครียดก็จะมลายหายไปแล้ว

4.ขาดธาตุเหล็ก

เส้นผมมีความต้องการธาตุเหล็กเพื่อบำรุงอยู่เสมอ ดังนั้นเมื่อขาดธาตุเหล็กไป จึงอาจทำให้เส้นผมค่อยๆ หลุดร่วงลงและเสี่ยงต่อการหัวล้านได้ เพราะฉะนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผมร่วงจนล้าน สาวๆ อย่าลืมทานธาตุเหล็กเสริมบ่อยๆ ด้วยล่ะ โดยอาจเป็นธาตุเหล็กที่ได้จากธรรมชาติหรือธาตุเหล็กเสริมก็ได้

5.ทานยาคุมกำเนิด

เมื่อทานยาคุมกำเนิด จะทำให้ร่างกายของเราได้รับฮอร์โมนแอนโตรเจนสูงขึ้น และฮอร์โมนตัวนี้นี่เองที่เป็นสาเหตุให้ผมร่วงและอาจหัวล้านได้ในที่สุด แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนที่ทานยาคุมกำเนิดหรอกนะ ดังนั้นหากใครทานยาคุมกำเนิดและรู้สึกว่าผมร่วงมากกว่าปกติล่ะก็ ควรเปลี่ยนวิธีการคุมกำเนิดเป็นวิธีอื่น หรือเปลี่ยนยี่ห้อยาคุม ก็จะช่วยป้องกันปัญหาหัวล้านได้เยอะ

และนี่ก็คือ สาเหตุที่ทำให้หัวล้านนั่นเอง สาวๆ คนไหนมีปัญหาหัวล้านหรือผมร่วงบ่อยๆ ก็ลองมองหาสาเหตุดูนะคะว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ เพื่อจะได้ป้องกันและแกปัญหาได้ทันนั่นเอง

ขอบคุณภาพประกอบจาก : istock