เปิดซิง ลีเดีย - ระบำดวงดาว
Cover Story
Frist Time!!
เปิดตัวครั้งแรกในละคร "ระบำดวงดาว" บอกได้คำเดียวว่า "เหมย" หรือ "ลีเดีย" ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา เล่นออกมาได้ดีไม่น้อย ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นละครเรื่องแรกของเจ้าตัว ภาพยนตร์บันเทิงต้องรีบส่งเทียบเชิญเธอมาถ่ายแฟชั่น แล้วก็ทำให้ได้รู้ว่า กว่าจะเล่นละครออกมาได้เนียนขนาดนี้ เจ้าตัวก็ต้องผ่านด่านหินของผู้กำกับฯ "โอ๋" กฤษฎา เตชะนิโลบล มาแบบสุดๆ ทั้งโดนด่า โดนดุ จนกลั่นผลงานออกมาได้ถูกใจผู้ชม
ฟีดแบ็กเพียงแค่ตอนแรกก็หายเหนื่อย
"ตอนแรกนึกว่าจะรอดไหม เพราะโดนดุมาเยอะมากค่ะ ตอนแรกๆ เข้าฉากเล่นไม่ได้เลยพี่โอ๋ ผกก.จะบอกว่าพูดอ่ะ อ้าปากพูดได้ไหม ภาษาไทยพูดให้มันชัดๆ หน่อย ทำไมพูดเห็นแต่ฟันล่างอะ พูดช้าๆ ชัดๆ หน่อยได้ไหม ไม่ผ่าน แอ็กติ้งนี้ก็ไม่ผ่าน แล้วคนดูก็เยอะมาก ถ่ายแรกๆ เนี่ย 7-8 เทค แล้วนักแสดงก็รุ่นใหญ่ทั้งนั้น พี่ออย พี่พลอย คือกลัวมากกับเทปแรกที่ออนแอร์ แต่ต้องบอกเลยว่า พี่โอ๋ช่วยตัดต่อออกมาได้ดีมากๆ ค่ะ แล้วเรื่องนี้เราทุ่มเทเต็มที่ออกมาได้แบบนี้ก็โล่งอกแล้วค่ะ"
สิ่งที่ลีเดียมองว่ายากที่สุด
"ยากทุกอย่างค่ะ เพราะว่าเราไม่มีพื้นฐานด้านการแสดง เราไม่รู้ว่าต้องเล่นไปตรงไหนไม่บังคนอื่น ต้องพูดช้า พูดให้ชัดองค์ประกอบมันยากมากค่ะ กดดันนะ แต่ไม่ร้องไห้ ลีเดียเป็นคนที่ ถ้าเรื่องงานเนี่ย ถ้าเล่นไม่ดียังไงแล้วโดนดุ มันทำให้เราต้องพยายามสู้ต่อ ต้องทำให้ได้ ตอนถ่ายจะเกร็ง มือสั่นเลยล่ะ ทำอะไรไม่ถูก เพราะเรากลัวโดนดุ แต่หลังๆ ก็เริ่มดีขึ้น"
ปัญหาด้านภาษาทำให้ตีบทไม่แตก
"อย่างฉากปะทะอย่างนี้นะคะ คือเราคิดเป็นภาษาอังกฤษ บางทีมันต้องต่อบทกันเอง แล้วเราไม่รู้ว่าด่ายังไงให้มันเจ็บ หรือเขาด่าเราว่าอะไร ไม่เข้าใจ อะไรคือ "อีด่าง" มันมีคำศัพท์ที่เราไม่เข้าใจ เราต้องค่อยๆ ดำน้ำไป ถ้าเข้าฉากทะเลาะกันต้องมีสคริปต์มาให้เลยไม่งั้นไม่เข้าใจค่ะ ถ้าปล่อยให้ด่าเอง ไปไม่รอด (หัวเราะ) มันก็ยาก รู้ว่าเขาด่าแต่ไม่รู้ด่าว่าอะไร หรือรู้ว่าอะไรแต่ใส่กลับไปไม่ได้ อย่างฉากที่ น้ำหวาน (พลอย เฌอมาลย์) ขับรถมาชนรถเข็นเรา แล้วเขาก็ด่า ถนนในกรุงเทพฯ นะ คุณขับแบบนี้ได้ยังไง แล้วเขาด่ามาเป็นชุดเลย เราตอบได้คำเดียว มันไม่ใช่เลย (หัวเราะ) แล้วทุกคนในกองฯ ก็จะแบบ เฮ้ย ! แค่นี้เหรอ พี่พลอยจากด่าๆ หน้าโกรธๆ ก็หัวเราะ คือเราด่ากลับไปไม่ได้ เพราะเราอิมโพรไวส์ออกมาเองไม่ไหว"
ตบจริงจูบหลอก
"ตบตีไม่ยากนะคะ กับพี่พลอยไม่มีพลาดเลย เพราะพี่เขาจะบอกว่าเราต้องทำยังไง เรายังใหม่ มีฉากต้องถูกข่มขืนด้วย ตอนแรกกลัวมาก กังวลไม่รู้จะเล่นยังไง พี่โอ๋ ก็บอกว่ามันจะไปเอง มันจะมีมุมของมัน เราไม่เข้าใจ จนได้มาเล่น กลัวจริงๆ นะ แล้วพี่ฐา เป็นคนแสดงเก่ง อยู่มานานพี่เขาส่งเราดีมากด้วยล่ะ แล้วก็เซฟเราด้วย ไม่งั้นเราคงทำไม่ได้ ส่วนกับพี่ออยมันมีซีนตบจูบกัน ก็ใช้มุมกล้องค่ะ พี่ออยจะเอานิ้วมาแปะไว้ตรงปากเรา มุมกล้องค่ะ แต่ตบเนี่ยตบจริง (หัวเราะ) คือพี่ออยเขาว่าเราในฉาก แล้วพี่เขาบอกก่อนเข้าฉากเลยว่า ถ้าจะให้เนียนตบจริงได้เลยนะ พอเข้าฉากปุ๊บเดียก็ตบสิ ผลัวะ !!! ทุกคนตกใจมาก ทั้งกองฯ แบบ เฮ้ย !! กันทั้งกองฯ แล้วหน้าพี่เขาก็ขึ้นเป็นรอย 5 นิ้วเลย แล้วฉากนี้มันต้องตบ 2 ทีซ้อน ก็ซัดไปอีกผลัวะ !! พอเสร็จกองฯ ก็บอกเลยพี่ขาหนูขอโทษ ซึ่งพี่ออยบอกว่า ถ้าให้คะแนน จาก 10 เดียได้ 6 - 6 ครึ่ง เพราะคนที่เคยตบเขาเจ็บที่สุด คือพี่เจมี่ บูเฮอร์ (หัวเราะ)"
ชีวิตจริงเจอแบบนี้ ลีเดียสู้ไหม
"โห ! ต้องสู้ค่ะ เพราะในเรื่องเนี่ย น้ำหวานด่าเรา ขับรถชนแม่เรา ทำอะไรหลายๆ อย่างที่ถ้าชีวิตจริงคงไม่ปล่อยให้เขาทำขนาดนี้ อย่างตัวเดียคือเรื่องไหนรับได้ก็รับ ไม่ได้ก็ต้องสู้ อย่างข่าวที่ออกมาหลายๆ ข่าวมีทั้งเรื่องจริงไม่จริง มารังแกเราจะเหยียบเราจมดินเราก็ไม่ไหวนะ อย่างข่าวที่ออกมาว่าเดียท้อง แล้วถ้าเราปล่อยเขาพูดไปเรื่อยๆ คนก็จะคิดว่าเป็นอย่างนั้นจริง เลยต้องตอบโต้บ้าง"
ละครเรื่องนี้ส่วนมากมาจากพล็อตในวงการจริงๆ
"ก็มีบ้างค่ะ เพราะละครก็เกี่ยวกับวงการบันเทิงเลย อาจจะมีเหตุการณ์บางอย่างที่คล้ายๆ กับเหตุการณ์จริงบ้าง แต่ไม่ได้เจาะจงนะ อย่างเดียก็มีฉากที่มีข่าวว่าไปเป็นเมียน้อยเสี่ย แต่ไม่ได้บอกว่าเสี่ยคนไหน ในเรื่องเราก็ต้องมาแก้ข่าว อย่างพี่เปรม ก็มีฉากที่พี่เขาต้องบอกว่าเขาไม่ได้เป็นเกย์นะ คือมันมาจากข่าวจริงๆ ที่เกิดขึ้นในวงการบันเทิง"
การเล่นละครซ้อนละครล่ะคะ ยากไหม
"ใช่ค่ะ เรียกว่าเพิ่มสีสันในละคร ได้แต่งพีเรียด ได้แต่งเป็นคนใช้ ได้เป็นแม่ค้า เป็นโคโยตี้ มันเล่นได้หลายบท มีแต่งเป็นไฝดำด้วย (หัวเราะ) ไม่เบื่อแต่ยากมากค่ะ โดยเฉพาะโคโยตี้ คือเดียเต้นตาม สเต็ปอะได้ แต่ต้องฝึกซ้อมมา เต้นแบบนี้ตามนี้ แต่โคโยตี้ ต้องขึ้นเวที เลื้อยไปตามเพลง ตอนถ่ายต้องมีคุณครูมาอยู่หลังกล้อง เดียก็เต้นตามคุณครูไป เพราะเราซ้อมแค่อาทิตย์กว่า นอยด์ด้วยล่ะไม่มั่นใจ"
เซ็กซี่ที่คาร์แคร์
"มันมีฉากที่ต้องล้างรถค่ะ แล้วใส่บราเพชร ขาสั้นเอวลอยแล้วชุดเนี่ยมันรัดมาก จนนมขึ้นมาถึงคอ พุงก็ปลิ้น มันรัดดันมาก แล้วยังมีฝนตกลงมาอีกเพื่อให้เสื้อขาวที่เราใส่มันดูเซ็กซี่ กังวลมาก ไหนจะต้องเต้นเลื้อยๆ อีก นมก็จะหก พุงก็ปลิ้นแล้วต้องจำบท แล้วยังต้องจูบกับรมมี่ (แอริน) อีก คือจูบกันมันไม่เท่าไหร่นะ เพราะว่าเดียกับแอรินโตมาด้วยกัน เพราะฉะนั้นเทคเดียวผ่าน แต่ไอ้ที่ยากคือเต้น พี่โอ๋บอกอย่างเดียวว่ามันไม่เซ็กซี่เลย เอาใหม่ ไม่มีความเซ็กซี่เลย เดียว่ามันก็โอเค. แต่พี่เขาดูว่ามันไม่เซ็กซี่ เจอไป 5 เทคอายมาก เพราะว่าตอนถ่าย ถ่ายที่คริสตันปาร์ค ตรงหน้าร้านอาหาร คนกินข้าวไปดูโชว์ไปด้วย อายนะ (หัวเราะ)"
พี่แมทว่าไงบ้าง
"บอกว่าจะคอยดูค่ะ พี่เขาก็บอกว่าต้องเตรียมรับกับสถานการณ์นะ เพราะคงต้องมีวิจารณ์กันบ้าง ซึ่งเดียก็โอเค.นะ ส่วนเรื่องแสดง เขาดูตอนแรกบอกว่าโอเค. เพราะว่าเราเล่นไม่แข็งดีกว่าที่พี่แมทคิดไว้ ตอนแรกคิดว่าเราจะแข็งกว่านี้ ส่วนเรื่องเซ็กซี่ พี่แมทไม่ได้ว่านะ จะทักเรื่องฉากที่ต้องใส่ชุดว่ายน้ำ เพราะว่าตัวเหมยจะไปแคสละคร แล้วมันต้องใส่ชุดว่ายน้ำด้วย ตอนแรกพี่โอ๋จะให้ใส่แบบสามเหลี่ยมเลย ต้องเห็นร่องนม เดียก็ขอว่า อย่าเลย เลยออกมาเป็นแบบสปอร์ตๆ หน่อย ซึ่งพี่แมทเห็นแล้วก็โอเค. เพราะจริงๆ เดียไม่เคยใส่ชุดว่ายน้ำถ่ายที่ไหนด้วย"
เข็ดไหมอ่ะละคร
"ไม่เข็ดค่ะ เพราะละครให้ประสบการณ์ใหม่ๆ กับเดียนะ มันแตกต่างจากการร้องเพลง เวลาร้องเพลงเราจะเจอแต่ทีมเดิมๆ ไม่กี่คน แต่พอมาเป็นละครเราเจอกับโอ้โห เยอะมาก ไม่เหงา มีข้าวกิน 3 มื้อ นั่งเม้าท์กันสนุกนะคะ แฮปปี้ แล้วเรื่องนี้ใช้เวลาถ่ายนานมาก 1 ปี กับอีก 12 วัน ตอนนี้ขอดูเรื่องนี้ก่อนดีกว่าว่าโอเค.ไหม เพราะว่านี่เป็นเรื่องแรกด้วยค่ะ อยากดูผลตอบรับว่าคนชอบไหม ถ้าชอบก็อาจจะเล่นต่อเนื่องค่ะ"